ดีเอสไอเอาจริง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นหาหลักฐานขยายผลคดีเอี่ยวฮั้วประมูลเช่าเครื่องจักรของอ.ส.ค. เสียหายเกือบ 900 ล้านบาท

 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 29 ต.ค.66 ด้วยกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ดีเอสไอ อยู่ระหว่างการสอบสวนคดีพิเศษกรณีน่าเชื่อว่าโครงการจัดเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพและทดแทนเครื่องจักรโรงงานของสำนักงานองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.)มีบริษัทเอกชน ส มีการสมคบกันกับ บริษัทเอกชน พ เพื่อกีดกันไม่ให้บริษัทเอกชน อ มีโอกาสเข้าทำการเสนอราคาแข่งขันราคาได้อย่างเป็นธรรม โดยวิธีการไม่ยอมขายเครื่องจักรและอุปกรณ์หรือขายให้แต่กำหนดราคาสูงกว่าราคาปกติทั่วไป อันเป็นการกระทำโดยวิธีอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าทำการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (จำนวน 5 แห่ง) รวมมูลค่าความเสียหาย 889,812,000 บาท รายละเอียดดังนี้ 1.สำนักงานอ.ส.ค.ภาคใต้ วงเงินงบประมาณ (ราคากลาง) 135,215,304 บาท และสำนักงานอ.ส.ค.ภาคเหนือตอนบน วงเงินงบประมาณ (ราคากลาง) 17,176,404 บาท (คดีพิเศษที่ 220/2566) 2.สำนักงานอ.ส.ค.ภาคกลาง วงเงินงบประมาณ (ราคากลาง) 270,974,592 บาท (คดีพิเศษที่ 221/2566) 3.สำนักงานอ.ส.ค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วงเงินงบประมาณ (ราคากลาง) 219,964,416 บาท (คดีพิเศษที่ 222/2566) 4.สำนักงานอ.ส.ค.ภาคเหนือตอนล่าง วงเงินงบประมาณ (ราคากลาง) 246,481,284 บาท (คดีพิเศษที่ 223/2566
 
โดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อํานวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ นายศุภภางกูร พิชิตกุล รองผู้อํานวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และนางสาวเนรัญชรา กอมะณี ผู้อำนวยการส่วนคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 3 นำกำลังเจ้าหน้าที่บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ได้นำหมายค้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพมหานครจำนวน 2 จุด เพื่อค้นหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปทำการเชื่อมโยงกับพยานหลักฐานที่ได้จากการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป
 
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษมีความมุ่งมั่นในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ตามกรอบอำนาจหน้าที่ และนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีนโยบายให้ปราบปรามคณะบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทุจริตใช้เอกชนเป็นเครื่องมือทั้งทางตรงและทางอ้อมในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (ฮั้วประมูล) เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน พร้อมทุ่มเททรัพยากรและบูรณาการการปฏิบัติงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ