วันที่ 4 ต.ค.66 ที่โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวในงานสัมมนา “กรุงเทพธุรกิจ” Thailand Economic Outlook 2024 Change the Future Today ตอนหนึ่งว่า ว่า เราเห็นตรงกันถึงปัญหา อุปสรรคที่ขีดกั้นประเทศไทยที่จะก้าวไปข้างหน้า วันนี้ไม่อยากให้มองตนเป็นนายกฯ วันนี้อยากให้มองผมเป็นนักธุรกิจคนหนึ่งที่ได้รับมอบหมายจากพวกท่านให้มานำพาประเทศไปสู่จุดที่ไปถึงได้
“เรื่องที่เราเปรียบเทียบว่าเราเหมือนรถยนต์ที่วิ่งช้ากว่าเพื่อนฝูงพอสมควร อันนี้ไม่ต้องมีใครเถียง ตัวเลขเป็นตัวชี้วัด บ่งบอกถึงการที่เราสู้เพื่อนบ้านไม่ได้ อย่ามาพูดดีกว่า ต่างกรรมต่างวาระ เราไม่สมควรที่จะพูดถึงรัฐบาลก่อน เพราะท่านเองก็มีปัญหาตอนที่ทำงานมาก็ได้แก้ไขปัญหาของประเทศชาติไป ท่านก็ได้แก้ไขมา เวลานี้เป็นเวลาของรัฐบาลนี้เราก็ต้องทำต่อไปให้ได้ดีที่สุด” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า เครื่องยนต์ของประเทศเดินช้ามากในห้วงที่ผ่านมา คนหมู่มากอย่างเกษตรกรน่าสงสารที่สุด รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง เขาอยากมีศักดิ์ศรี มีเงินใช้จ่ายใช้คืนหนี้สิน โดยมาตรการพักหนี้เกษตรกร ที่ผ่านมาพักแล้วไม่จบมาจากหลายประเด็น โดยเฉพาะน้ำท่วมน้ำแล้ง ถ้าไม่ท่วมไม่แล้ง เศรษฐกิจไทยไปไกลกว่านี้ รัฐบาลจึงต้องลงทุนเรื่องน้ำทั้งระบบ เมื่อวานนี้ตนเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย สส.พูดคุยกับ สส. กว่า 10 คน ต่างสะท้อนปัญหาเรื่องน้ำ แล้วยังมีเรื่องที่พารากอนก็มีเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น ตนก็เรียนตรงๆ สับสน งง สส.ก็ถามว่าท่านเอาอย่างนี้ที่คุยเรื่องน้ำอยู่ในภาคอีสานทั้งหมด ทำไมไม่อธิบาย สส.เข้าใจ นโยบายภาพรวมเป็นอย่างไร เมื่อเช้าตนก็คุยกับรมว.เกษตรฯ จะบริหารจัดการไม่ให้ท่วมและแล้งอย่งไร ขอเวลาอีกนิด รัฐบาลตระหนักดี ภายใน 3 เดือน จะมีอะไรเป็นบวกเกิดขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า หน้าที่ตนเป็นเซลล์แมน ขายสินค้าดีๆ ของประเทศ ขายความเชื่อมั่นให้นักลงทุน เป็นภารกิจหลักของตนที่จะทำให้เกิดขึ้นให้ได้ หลักการต่างๆ ที่ไม่เป็นสากล ต้องกลับมาดู จะทลายได้หรือไม่ เราจึงต้องมาพูดเรื่องการพัฒนาและการแก้ไข พาประเทศไปข้างหน้า
นายกฯ กล่าวถึงภาคประมงว่า ไทยเราเคยเป็นเจ้าสมุทร แต่วันนี้เรือประมงจอดทิ้งเป็นจำนวนมาก ซึ่งกฎหมายiuu สำคัญ ที่มีความกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่เราไม่จำเป็นต้องยอมหมด ตรงไหนที่มีปัญหาต้องต่อรองเพื่อให้ภาคประมงไทยกลับมาผงาดอีกครั้ง
นอกจากนั้น นายกฯ กล่างถึงเรื่องการท่องเที่ยวว่า สังคมเรามีอีแอบอยู่บ้าง นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาถึง 4-5 ทุ่ม ผับบาร์ปิดเที่ยงคืน หรือตี1 แต่ก็มีแอบเปิด แต่ถ้าให้เปิด 24ชั่วโมง คนก็จะเอ๊ะ จะมีปัญหา ดังนั้น จึงต้องยอมรับจำเป็นต้องขยายเวลาอะไรหรือไม่ ทั้งนี้ นโยบายรัฐบาลที่ออกไปมีข้อดีข้อเสีย ก็ขอให้พูดจากันอย่างตรงไปตรงมา เสนอแนะด้วยความสร้างสรรค์
นายกฯ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ รวมถึงความแตกแยกในสังคมไทย ความคิดคนแต่ละเจเนอเรชั่น ความเชื่อต่างกัน ถ้าคุยด้วยเหตุผล ความเห็นต่างได้ในพื้นที่ปลอดภัย การแสดงตัวตนผ่านโซเชียล ทุกคนใช้หมด โดยในที่นี้มีคนที่ประสบความสำเร็จ มีรายได้ เป็นผู้นำองค์กร การแเสดงออกว่ามีเยอะ ควรคำนึงให้ดี เราต้องดูแลจิตใจซึ่งกันและกัน ในสภาพที่เศรษฐกิจเปราะบาง คนไม่พอใจ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่เหลื่อมล้ำที่สุดประเทศหนึ่ง จึงต้องคิดก่อนโพสต์หรือแสดงตัวตน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดเทียบเท่าเศรษฐกิจ ประสานความไม่เข้าใจ เห็นต่างเข้าด้วยกัน ถ้าทำให้ทุกฝ่ายอยู่ได้อย่างมีสุข เป็นสิ่งที่ประเทศไทยควรจะเป็น
“เราพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้หาเสียงหรือโฆษณาชวนเชื่อ ประเทศไทยเปิดแล้วครับ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” นายกฯ กล่าว