"เศรษฐา" ขอให้เวลา"วิษณุ" ดูคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา40สว.ร้องถอดถอน ก่อนส่งศาลรัฐธรรมนูญ 10 มิ.ย.นี้ ยอมรับมีส.ส.เพื่อไทยบางส่วนไม่พอใจดึงวิษณุมาเป็นที่ปรึกษา เผยพร้อมเข้าร่วมประชุมพรรค ด้าน'สรวงศ์' มั่นใจไม่มีคลื่นใต้น้ำ หลัง 'อิ๊ง' ขอเด็กเพื่อไทยเข้าใจ 'นายกฯ' ตั้ง 'วิษณุ' ขณะที่"วันชัย" ออกโรงแฉขบวนการ 3 ล้ม "โค่นรัฐบาล-ยุบก้าวไกล-ล้มกระดานเลือกสว."
 
     ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญหลัง 40 สว.ยื่นร้องถอดถอน กรณีแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า ยังไม่ได้ประชุมร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แต่อย่างใด ซึ่งนายวิษณุประชุมกับทีมงานและต้องให้เวลานายวิษณุดูในรายละเอียด โดยจะครบกำหนดที่จะต้องส่งคำชี้แจงในวันจันทร์ที่ 10 มิ.ย.67 ส่วนเวลานี้ยังกังวลเรื่องอะไรหรือไม่นั้น เรื่องกังวลไม่ต้องถาม กังวลทุกเรื่อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแก้คำชี้แจง
   
  สำหรับกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวในที่ประชุมพรรค โดยให้ส.ส.สนับสนุนนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจมีบางส่วนไม่พอใจการแต่งตั้งนายวิษณุนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ได้ติดตามจากที่สื่อมวลชนได้รายงาน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้หลีกเลี่ยงจะไม่เข้าพรรค ซึ่งหากว่างจะเข้าตลอดและขณะนี้อยู่ระหว่างการปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งก็ยังไม่มีเรื่องอะไร แต่หากสภาเปิดแล้วก็คงจะเข้าไปอยู่ที่สภาทุกวันพฤหัสบดีเหมือนเดิม และหากว่างก็จะเข้าไปประชุมพรรคในวันอังคารเพื่อจะได้มีเวลาพบปะกับส.ส. ส่วนเรื่องที่น.ส.แพทองธารพูด ตนได้ติดตามจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่จะพอใจบ้างไม่พอใจบ้าง แต่เชื่อว่าคำอธิบายชัดเจน
  
   ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายกฯ เข้าไปชี้แจงด้วยตนเองจะทำให้ส.ส.สบายใจมากกว่าให้คนอื่นพูด นายเศรษฐา กล่าวยอมรับว่า เป็นอีกแนวคิดหนึ่ง หากว่างมีเวลาก็จะเข้าไป หากมีคำถามก็จะชี้แจงต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับคำถามที่ถามแล้วถามอีก ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ตนต้องชี้แจง ตนไม่ได้คิดอะไรมาก เข้าใจว่าหากมีการถามซ้ำแสดงว่ามีความกังวลอยู่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตนที่ต้องพยายามอธิบาย
   
  เมื่อถามย้ำว่า จะยิ่งเป็นช่องว่างระหว่างนายกรัฐมนตรีกับส.ส.ในพรรคมากขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ เนื่องจากตนลงพื้นที่เยอะ ส่วนไหนที่พูดรู้เรื่องกันแล้วมันก็รู้เรื่อง แต่ก็เป็นเรื่องของการอยู่ร่วมกันก็ไม่ได้สบายใจในทุกเรื่องเสมอไป แต่เรื่องที่สบายใจอาจจะ 80 เรื่องที่ไม่สบายใจอาจจะ 20 เราก็ต้องทำให้เรื่องไม่สบายใจลดลงไปเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นหน้าที่อยู่แล้วที่ต้องพยายามทำต่อไปเพื่อให้ความกระจ่างกับคนที่ทำงานด้วยกัน ส่วนเรื่องของการลงพื้นที่และทีมงานที่เข้ามาพูดคุยแนะนำปัญหาของประชาชนตนก็รับฟังมาโดยตลอดทั้งผ่านทีมงานและรับฟังเอง
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ในอนาคตจะมีการพูดคุยกับส.ส.เป็นกลุ่มภาคหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทำอยู่แล้ว ซึ่งบางทีทำอยู่ก็ไม่ได้บอกกับสื่อ โดยนำนโยบายต่างๆ ไปพูดคุยกับสส.ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคใดมานั่งฟังความคิดเห็นเพื่อปรับนโยบายให้ตรงกับความต้องการของประชาชน เพราะสส.คือตัวแทนของประชาชน
    
 ด้าน  นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคพูดกับ ส.ส. ในที่ประชุมพรรค โดยขอให้เข้าใจเรื่องที่นายเศรษฐาแต่งตั้งนายวิษณุเป็นที่ปรึกษาฯ  ว่า จริงๆ ไม่มีใครมีปัญหาเลย มีแค่ นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย เท่านั้น ที่โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในประเด็นที่เคยอภิปรายนายวิษณุไว้ในสภาสมัยที่พรรคเป็นพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งวันก่อนตนได้พูดคุยกับนายเลิศศักดิ์แล้ว นายเลิศศักดิ์ก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการแต่งตั้งนายวิษณุ เพียงแค่ออกมาแสดงจุดยืนเท่านั้น แต่ทั้งนี้หากเป็นการตัดสินใจของนายเศรษฐา คนในพรรคก็ไม่มีใครมีปัญหาอะไร
  
   ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่น.ส.แพทองธารพูดในที่ประชุมพรรค ไม่มีส.ส.แสดงท่าทีไม่พอใจอะไรใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มี และน.ส.แพทองธารก็ไม่ได้พูดอะไรที่จะต้องบังคับให้คนอื่นคิดเหมือนตัวเอง เพียงแค่พูดในหลักการว่าทุกอย่างหากเราไม่ไปด้วยกัน ไม่ไปทางเดียวกัน และถ้ามีปัญหาแค่เรื่องการแต่งตั้งคน รัฐบาลก็จะสั่นคลอน ซึ่งหากรัฐบาลสั่นคลอน พรรคก็สั่นคลอน เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นๆ ย้ำว่าไม่ได้มีอะไร นายเศรษฐาเห็นว่าเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ จึงแต่งตั้งขึ้นมาเท่านั้น
 
    เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่นายวิษณุเองก็ให้สัมภาษณ์ว่าหากมีคนไม่พอใจเรื่องการแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่อยู่ก็ได้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เห็นใจและเข้าใจนายวิษณุ ซึ่งจริงๆ นายวิษณุก็ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในจุดนั้นก็ได้ แต่จากที่ตนฟังสัมภาษณ์นายวิษณุก็บอกว่าหากเห็นว่าท่านยังเป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้านเมืองได้อยู่ ก็จะมาช่วย แต่หากมีปัญหา ท่านก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ ซึ่งในพรรคก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เมื่อถามอีกว่า มั่นใจหรือไม่ว่าหลังจากนี้จะไม่มีส.ส.พูดถึงเรื่องนี้อีก นายสรวงศ์ กล่าวว่า "ไม่มีหรอกครับ" เมื่อถามย้ำว่า จะไม่มีคลื่นใต้น้ำรอกระทบทีหลังด้วยใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า "ไม่มีครับ ไม่มีแน่นอน เพราะผมคุยกับส.ส.หลายคน ตอนนี้เขาก็ห่วงเรื่องความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมากกว่า ไม่ได้ห่วงเรื่องอื่น"

 นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยว่า ได้รับทราบข่าวที่เป็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ "ขบวนการ 3 ล้ม" ที่อยากจะบอกให้สังคมได้รับทราบเพราะเป็นเรื่องที่กระทบกับชาติบ้านเมืองและระบอบประชาธิปไตย โดยขบวนการ 3 ล้ม เกิดขึ้นนี้ เป็นการรวมการเฉพาะกิจเหมือน โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจของคณะบุคคล 3 กลุ่ม 3 พวก เพื่อกระทำการ 3 ล้มนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ในเร็ววันนี้
   
  ล้มแรกคือ ล้มรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ลงให้ได้ เพราะถ้าล้มรัฐบาลยนายเศรษฐาลงได้ก็จะมีการเซตซีโร่ในอำนาจนั้น แล้วก็เริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ตัวเองจะได้เข้ามามีอำนาจในครั้งใหม่นี้ ล้มที่สอง ล้มหรือยุบก้าวไกล เพราะถ้ายุบก้าวไกลไปได้ พรรคก็จะแตกกระสานซ่านเซ็น ส.ส.ก็จะต้องหาที่อยู่ใหม่ภายใน 30 วัน ตอนนั้นพรรคตัวเองหรือพรรคพวกของตัวเองก็จะตามช้อน หรือต้อนเข้าคอก ทำให้มีเสียงเพิ่มมากขึ้น แล้วก็จะมีอำนาจต่อรองกับอำนาจใหม่นี้ ล้มที่สาม ก็คือล้มกระดานการเลือก สว. ถ้าล้มได้ สว.ชุดเก่าก็ยังอยู่เหมือนเดิม คอยปฏิบัติภารกิจได้ต่อไป
  
   นายวันชัย กล่าวว่า คณะบุคคล 3 พวก ที่ประสานงานจับมือกันเคลื่อนไหวเป็นขบวนการอย่างเข้มข้นอยู่ในขณะนี้เพื่อหวังจะทำให้ 3 ล้มดังกล่าวประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย 1.พวกที่ผิดหวัง อกหักทางการเมือง ไม่ได้เข้ามามีอำนาจ 2. พวกที่เกลียดทักษิณเข้ากระดูกดำ 3. พวกเผด็จการ นิยมการปฏิวัติ รัฐประหาร ทั้ง 3 พวกนี้ไม่เอาทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล รวมทั้ง ทักษิณ การออกมาให้ข่าวกล่าวหา โจมตีในประเด็นต่างๆ เป็นระลอก การยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระ มีสื่อบางสำนักเป็นกระบอกเสียง คนเหล่านี้ปฏิบัติการเป็นแบบรวมการเฉพาะกิจ ไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น แต่ละคนแต่ละพวกอุดมการณ์ต่างกัน แต่เป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการล้มรัฐบาลนายเศรษฐา ยุบพรรคก้าวไกล และล้มกระดานการเลือก สว. เพื่อให้ สว.ปัจจุบันยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป
    
 "ขบวนการ 3 ล้มนี้ แบบสอดประสานกัน เกิดขึ้น วางแผน เตรียมการ และกำลังดำเนินการอยู่ ขอให้จับตาการเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้ให้ดี ความพยายามของพวกนี้เป็นวิชามารที่สกปรก หวังแต่เพียงจะสร้างความสับสนวุ่นวายเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจต่อรองมากขึ้น หากล้มรัฐบาลนายเศรษฐาได้ก็จะนับหนึ่งกันใหม่ หรือไม่ก็อาจจะไปถึงขั้นเปิดช่องให้อำนาจนอกระบบเข้ามาก่อรัฐประหาร ซึ่งประมาทไม่ได้" นายวันชัย กล่าว
    
 วันเดียวกัน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์  โพสต์เฟซบุ๊ก ฟันธง "ทักษิณ" ไม่หนีคดี ม.112 พร้อมเปรียบเทียบ ข้อดี-ข้อเสีย จากทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายที่คิดว่าไม่หนี กับฝ่ายที่คิดว่าหนีคดีแน่ ช่วงนี้มีกระแสข่าวลือ และการปล่อยข่าวเรื่องคุณทักษิณหนีไปต่างประเทศ ไม่ยอมให้สำนักงานอัยการสูงสุด นำตัวส่งฟ้องต่อศาลยุติธรรม จนนักข่าวต้องสอบถามเรื่องนี้กับ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งยืนยันว่า คุณทักษิณยังอยู่ไม่หนีไปไหน เพราะได้คุยกับคุณอุ๊งอิ๊งแล้ว รวมถึงตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ออกมายืนยันว่า คุณพ่อสบายดี ยังอยู่บ้าน เพื่อเป็นการดับข่าวว่า คุณทักษิณยังอยู่เมืองไทยไม่หนีไปเมืองนอก ตามกระแสข่าวลือแต่อย่างใด
    
 ผมขอแสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า ผมเชื่อว่าคุณทักษิณ จะไม่หนีไปต่างประเทศ ในคดีความผิด ม.112 ด้วยเหตุผล คือ 1.คุณทักษิณประเมินแล้วว่า จะได้รับการประกันตัวจากศาลอย่างแน่นอน  2.คุณทักษิณเพิ่งเดินทางกลับมาประเทศไทยเพียงไม่กี่เดือน หลังจากนี้ไปถึง 17 ปี คงไม่หวนกลับไปใช้ชีวิตในต่างประเทศอีก 3.คุณทักษิณอยู่ในประเทศไทยตอนนี้ เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดทางการเมือง เป็นซุปเปอร์นายกรัฐมนตรี สามารถควบคุมการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ได้ทั้งหมด จึงไม่จำเป็นที่จะออกนอกประเทศ
    
 4.คุณทักษิณถือไพ่เหนือกว่ากลุ่มอนุรักษนิยมทุกประตู สามารถต่อรองได้ทุกเงื่อนไข และกลุ่มอนุรักษนิยม ยังต้องใช้คุณทักษิณทางการเมืองเพื่อสู้กับพรรคก้าวไกล 5.เป็นคดีม.112 มีโทษไม่สูงมากนัก ส่วนใหญ่มีโทษจำคุกประมาณ 2 ปี ถ้าพลาดท่าแพ้คดี อาจได้รับโทษรอลงอาญาได้
    
 ส่วนเหตุผลของฝ่ายที่คิดว่าทักษิณต้องหนี คือ 1.คุณทักษิณอยู่ในระหว่างพักโทษไม่ติดกำไลอีเอ็ม จะเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก กรมคุมประพฤติไม่สามารถตรวจสอบได้ 2.คุณทักษิณมีเครื่องบินส่วนตัว สามารถบินออกนอกประเทศได้สะดวก ไม่ต้องหนีไปตามช่องทางธรรมชาติ 3.คุณทักษิณมีประสบการณ์หนีคดี อยู่เมืองนอกจนคุ้นเคย การหนีอีกครั้งก็ไม่เป็นปัญหา สำหรับการใช้ชีวิตของคุณทักษิณ 4.หนีเพื่อไปตั้งหลักที่ต่างประเทศก่อน เพื่อต่อรองอำนาจกับกลุ่มอนุรักษนิยมให้สะเด็ดน้ำก่อนกลับมา 5.ไม่เสี่ยงที่จะให้ศาลอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ เพราะเงื่อนไขการประกันตัว สุ่มเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการประกันตัวสูง ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกับบุคคลทั่วไป
    
 เมื่อชั่งน้ำหนักทั้ง 2 ฝ่าย คือเหตุผลของฝ่ายที่คิดว่าคุณทักษิณไม่หนี กับเหตุผลของฝ่ายที่คิดว่าคุณทักษิณหนีแล้ว ผมจึงฟันธงได้เลยทันทีว่า คุณทักษิณไม่หนีคดี ม.112 อย่างแน่นอน