“สามารถ”มั่นใจ 24 ก.ค.นี้ศาล รธน.เลื่อนตัดสินคดี“เศรษฐา”เชื่อ เตรียมฟันหลังยุบก้าวไกล 7 ส.ค.แล้ว เย้ย โพลเชียร์นายกฯถามคนแค่หลักพัน หวังชี้นำ
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ปรึกษากรรมาธิการการแรงงาน กล่าวว่า ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดนัดพิจารณาคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 40 คน ขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง จากการแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ตนเชื่อว่าวันที่ 24 ก.ค.นี้ ศาล รธน.จะยังไม่พิพากษาคดีนี้ โดยจะเลื่อนไปก่อน น่าจะไปหลังการยุบพรรคก้าวไกลไปแล้ว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ศาล รธน.จะตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล ก่อนที่จะมีคำตัดสินคดีของนายเศรษฐา ซึ่งตนมั่นใจว่า พรรคก้าวไกลถูกยุบแน่นอน ล้านเปอร์เซนต์ และศาลจะมีมติ 9 - 0 ส่วน สส.พรรคก้าวไกลที่บอกว่าจะไปอยู่พรรคก้าวใหม่นั้น อาจจะไม่ได้ไปพรรคก้าวใหม่แล้ว เนื่องจากส่งเอกสารหรืองบการเงินไม่ครบจึงทำให้เป็นพรรคไม่ได้ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องรอดูไปแต่จะตั้งพรรคอะไรก็แล้วแต่ ตนยังมั่นใจว่า งูเห่าจะยังไม่แสดงตัว โดยงูเห่าจะตามไปที่พรรคสังกัดใหม่ทั้งหมด แล้วรอไปเสนอตัววันโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรี จะมีการเทสต์ระบบ ก็คือ อาจจะมีการเทสต์ให้โหวตกฎหมายหรือมติบางเรื่อง เพื่อลองดูเสียงก่อน
“ถ้านายเศรษฐาร่วงจากการเป็นนายกฯ ผมเชื่อว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่คู่แข่ง เพราะจะเห็นได้ช่วง 2 วันที่ผ่านมานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปพบนายอนุทินแล้ว ผมก็แปลกใจว่าทำไมนายอนุทินถึงไม่เรียกร้องเรื่องกัญชา กลับให้ สส.ในพรรคภูมิใจไทยหลายคนออกมาพูดเรื่องนี้ ทั้งที่นายอนุทินสนิทกับนายทักษิณ มีภาพนายทักษิณไปที่โรงแรมนายอนุทิน เหตุใดนายอนุทินถึงไม่บอกว่า อย่าเพิ่งเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เรื่องนี้ก็ต้องคิดว่า เพราะอะไร และภาพที่ปรากฏว่า ไปตึกอล์ฟด้วยกันมันแสดงให้เห็นถึงอะไร มีนัยยะอะไร ซึ่งมีภาพของเสี่ยกลางด้วย มันสะท้อนให้เราเห็นอะไรหลายอย่างในทิศทางการเมือง”นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า เดือนสิงหาคมถึงแม้ฝนจะตกทุกวัน แต่เป็นเดือนที่ร้อนระอุทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็เข้มงวดเข้ามา ผมเชื่อมั่นว่า ประชาชนอยากให้มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เพราะวันนี้ของแพงทั้งแผ่นดินค่าไฟก็แพง ค่าน้ำก็แพง น้ำมันก็แพง แม้แต่ไข่ไก่ก็แพงมันสะท้อนให้เห็นเลยว่า การที่นายเศรษฐา พูดว่าจะลดรายจ่าย เติมรายได้นั้น เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ อยู่มาจะครบ 1 ปี ไม่มีวันไหนที่บอกว่าจะเติมเงินให้ได้ 20,000 เลย ที่บอกว่าครัวเรือนไหนมีไม่ถึงจะเติมให้เต็ม 20,000 ทันที ตอนนี้เป็นวลีคำพูดที่ไล่ล่านายเศรษฐา
นายสามารถ ยังกล่าวต่อถึง ผลสำรวจของไลน์ทูเดย์ที่บอกว่านายเศรษฐาได้คะแนนนิยมแซงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นโพลที่มีคนโหวตแค่หลักพัน และแบบสำรวจเช่นนี้ไม่มีใครเขาทำกัน หากมีช่องที่ให้ติ๊กว่าไม่เห็นด้วยหรือว่าไม่มีนักการเมืองในดวงใจ ลองดูว่า จะชนะนายเศรษฐาหรือไม่ ดังนั้นโพลแบบนี้เป็นแค่โพลชี้นำต่อลมหายใจนายเศรษฐาเท่านั้น