กสทช.วุ่นไม่จบ ปมลิขสิทธิ์บอลโลก-ดราม่าเปลี่ยนตัวเลขาฯ-ขาดเสถียรภาพภายในองค์กรอย่างหนัก
ล่าสุด รองเลขาฯ กสทช ภูมิศิษฐ์ มหาเวศน์ศิริ ฟ้องประธาน กสทช นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ต่อศาลอาญาทุจริตฯ เอาผิด ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณี ประธาน ไม่ลงนามสั่งแต่งตั้ง ภูมิศิษฐ์ เป็นรักษาการเลขาธิการ กสทช. แทน ไตรรัตน์ ที่ถูกสอบสวนคดีบอลโลก ทั้งที่มีมติบอร์ดออกมาแล้ว ซ้ำยังตั้งกรรมการสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ ภูมิศิษฐ์ เพียงผู้เดียวทั้งที่เป็นการดำเนินการตามมติที่ประชุม อันเป็นการจงใจกลั่นแกล้งทำให้เกิดความเสียหายต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเกิดจากมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 13/2566 ที่ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ฯ กับนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล จากกรณีผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการกรณีสำนักงาน กสทช. สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และเห็นชอบให้เปลี่ยนตัวรองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. โดยเห็นชอบให้แต่งตั้ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภูมิศิษฐ์ เป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ในระหว่างการสอบสวน เนื่องจากเป็นรองเลขาธิการ กสทช. ที่มีอาวุโสสูงสุด ตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการรักษาการแทนฯ แต่ต่อมากลับมีข่าวประชาสัมพันธ์ จากงานเลขานุการประธาน กสทช. ในทำนองการเสนอข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 13/2566 ก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่พนักงาน กสทช. เกิดการกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชาพร้อมทั้งประกาศว่า ประธาน กสทช. ยังไม่ได้มีคำสั่งยกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งนายไตรรัตน์ และยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ ให้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. แทน โดยนายไตรรัตน์ ยังเป็นรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่และมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเลขาธิการ กสทช. ทุกประการ ซึ่งในระหว่างนั้น นายไตรรัตน์ ได้ลงนามคำสั่งต่างๆ ในฐานะรักษาการเลขาฯ รวมถึงลงนามยกเลิกคำสั่งให้มีการสอบสวนตนเองอีกด้วย
ดังนั้น การกระทำของจำเลย (ประธาน กสทช.) จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยเป็นการประพฤติมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อตำแหน่งหน้าที่การงานของโจทก์ (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภูมิศิษฐ์) ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172