"รมว.กลาโหม" ลั่นกลางสภาฯ ปม "น้ำมันกองทัพ" หาย 2แสนลิตรสัปดาห์หน้ารู้ข้อเท็จจริง ต้องมีคนรับผิดชอบ รอ "ผบ.ทร." รายงาน "เรือดำน้ำ" ปัดตอบผลหารือ "นายกฯ" คุย "เยอรมัน" หาทางออกเรื่อง "เครื่องยนต์" ยันกู้ "เรือหลวงสุโขทัย" ไม่เอื้อประโยชน์ใคร
วันที่ 28 ก.ย.2566 เวลา 10.55น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ทั้งนี้มีการพิจารณากระทู้ถามสดของนายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ถามนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เรื่องน้ำมันของหน่วยงานทหารที่ จ.สระบุรีหาย จำนวน 2 แสนลิตร และขอถามถึงเรื่องปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ของ กองทัพเรือ หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้หารือกับทางเยอรมันเพื่อแก้ปัญหากับเครื่องยนต์ รวมถึงได้ซักถามถึงกรณีที่กองทัพ ตั้งงบ 300 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในระบบสื่อสาร ทั้งที่ควรเป็นระบบที่ติดตั้งมาพร้อมกับเรือ รวมถึงปัญหาของระดับความลึกในทะเลที่ไม่เหมาะสม พร้อมกับเสนอแนะให้ยกเลิกโครงการ นอกจากนี้ตนขอถามถึงความคืบหน้าในเรื่องการกู้เรือหลวงสุโขทัยล่ม
นายสุทิน ชี้แจงในเรื่องน้ำมันหาย จำนวน 2 แสนลิตร ที่จ.สระบุรี ว่า กองทัพได้ตรวจสอบและพบว่ามีเบาะแสรวมถึงความพิรุธ เบื้องต้น พบว่าน้ำมันดีเซลหาย 2.5แสนลิตร ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่ามีความล่าช้านั้น เป็นกระบวนการตรวจสอบที่ต้องทำให้รอบคอบก่อนจะลงโทษผู้กระทำผิด โดยภายในสัปดาห์สรุปผลเสนอ ผบ.ทบ. ได้ โดยผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษทางวินัย และทางอาญา รวมถึงสิ่งของทางราชการต้องได้คืนในทางแพ่ง เพื่อให้ได้คนที่ทำผิดจริง การสอบสวนต้องละเอียด ซึ่งไม่ใช่ความล่าช้า เมื่อมีของหายปี 2565 และตรวจพบในปี2566 ตนมองว่าไม่ล่าช้า
“การทำงานของผมยึดหลักคนดีก็ชม คนไม่ดีต้องจัดการ หากพบว่าสิ่งใดที่ทำมาในสิ่งที่ต้องการให้กำลังใจ หากทำนอกเหนือจากนั้นไม่ต้องปกป้อง ต้องดูต่อไป ทั้งนี้ผมไม่มีเจตนาปกป้องกองทัพ หรือให้ร้ายใครหากไม่อยู่ในฐานที่มีความผิดจริง ซึ่งมาตรการลงโทษที่เอาจริงจะเป็นการปรามไม่ให้เกิดเหตุอีก พร้อมกับกำชับการตรวจสอบภายในที่ต้องเข้มแข็ง คือ ระหว่างหน่วย, การส่งกำลังบำรุงและการใช้จริง, ใช้กรรมการตรวจจากจเรรทหารและชุดตรวจพิเศษ ซึ่งผมจะกำกับให้เป็นมาตรการที่จะใช้อย่างจริงจังต่อไป” นายสุทิน กล่าว
รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ส่วนเรื่อปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ของกองทัพเรือที่สั่งซื้อจากจีน แต่เครื่องยนต์ไม่ตรงสเปคก็ต้องรอให้กองทัพเรือพิจารณาก่อนส่งต่อมายังตนให้พิจารณา หากตนไม่เห็นด้วยก็จะส่งให้ ครม. พิจารณา ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการของกองทัพเรือที่ต้องพิจารณาและมีข้อสรุป เพราะยังไม่มีประเด็นที่ส่งมายังตนให้พิจารณา ตนทราบว่า ผบ.ทร. คนที่จะเกษียณสรุปว่าจะเดินหน้าต่อ ซึ่งตนยังรอเรื่องที่เป็นข้อสรุปจากกองทัพเรืออีกครั้ง
“ผมยังไม่สามารถให้คำตอบใดๆ ได้ หากผมด่วนสรุปจะไม่เป็นไปตามขั้นตอน กรอบการดำเนินการการจัดซื้อระหว่างประเทศ คือ จีนกับเยอรมันมีกรอบอยู่ที่เดือนธ.ค. ดังนั้นยังมีรายละเอียดที่พอพิจารณาได้ 2-3เดือน ส่วนกรณีที่นายกฯเจรจากับประเทศเยอรมันเป็นมาตรการเสริม ทางใดที่รักษาประโยชน์ของประเทศมากที่สุด ในภาวะปกติ จะเจรจากับผู้ขายไม่ได้ แต่ขณะนี้ไม่ปกติ เพราะทราบว่าจะไม่เกิดตามสัญญาทำให้ไทยเสียประโยชน์ ดังนั้นทางใดที่เป็นประโยชน์จึงต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้กองทัพเสียประโยชน์ ส่วนรายละเอียดที่นายกฯ ไปเจรจาผมยังไม่ทราบรายละเอียด” รมว.กลาโหม กล่าว
รมว.กลาโหม กล่าวต่อว่า ส่วนการกู้เรือหลวงสุโขทัย เกิดขึ้นในรัฐบาลที่ผ่านมา ส่วนตนรับตำแหน่ง 2-3 เดือน ดังนั้นต้องติดตามเรื่อง โดยตนให้ฝ่ายจเรทหารสอดส่องดูแล หากพบความไม่ชอบมาพากล หรือนอกเหนือระเบียบราชการ หรือเอื้อประโยชน์ให้กับใคร ตนจะจัดการแน่นอน ไม่ปล่อย