บิ๊กโจ๊ก ลุย ถก 7 หน่วยงาน ตรวจสอบการฮั้วประมูล 1,500 โครงการของ กำนันนก เผยยังไม่พบความผิดด้าน ดีเอสไอ เรียกสอบอีก 20 ต้องสงสัยฮั้วประมูลกับบริษัท กำนันนก พร้อมจ่อรับคดี ฮั้วประมูล เป็นคดีพิเศษ ภายในสัปดาห์นี้

ที่ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ได้รายงานความคืบหน้าให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับทราบเป็นระยะๆเกี่ยวกับคดีที่พนักงาน อัยการที่เชี่ยวชาญกฎหมาย ให้ความเห็นว่ากำนันนกมีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษทุกประเด็นตาม พระราชบัญญัติ การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ม.21 วรรค 1(ง) คดีความผิดทางอาญา ที่มีผู้ทรงอิทธิพลที่สำคัญ เป็นตัวการ ผู้ใช้หรือผู้ สนับสนุน และเมื่อดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว คาดภายในสัปดาห์นี้กฎหมายบังคับให้ พนักงานอัยการมาทำการร่วมสอบ สวนกับดีเอสไอตั้งแต่เริ่มต้นคดี ซึ่งจะมีรูปแบบการดำเนินคดีตามมาตรฐานสากลคล้ายกับคดีสำคัญหรือคดีผู้มีอิทธิพลที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ
    
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกองฮั้วประมูลฯ ดีเอสไอ ได้เรียกอีก 20 บริษัท ได้เข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน ประกอบด้วย 10 บริษัท ซึ่งเคยยื่นซื้อซองประมูลในโครงการประกวดราคาจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย อ.ดอนตูม - ต.ลำลูกบัว (ปีงบประมาณ 2560)และอีก 10 บริษัท ซึ่งเคยยื่นซื้อซองประมูลในโครงการประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว-บรรจบทางหลวงหมายเลข 346(ปีงบประมาณ 2564)ซึ่งเป็นโครงการเดียวกันกับที่บริษัทของ "กำนันนก" ผู้ต้องหาในคดีสั่งยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. หรือสารวัตรแบงค์ เสียชีวิต ได้เข้าร่วมซื้อซองเสนอราคาและประมูลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ส่วนอีก 18 บริษัทที่เหลือ จะเรียกมาให้ปากคำในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.66)
     
เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. แถลงภายหลังการประชุม 7 หน่วยงาน เพื่อตรวจสอบโครงการประมูลงานของภาครัฐ จำนวน 1,500 โครงการ งบประมาณกว่า 7,000 ล้านบาทและตรวจสอบ เส้นทางเงิน ของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ อดีตกำนันนกว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบว่า นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก มีความผิดเกี่ยวกับเรื่องฮั้วประมูล การเลี่ยงภาษีและเส้นทางการแต่อย่างใด โดยให้ชุดทำงานที่ประกอบด้วยหลายหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญไปตรวจสอบแต่ละภาคส่วนในทุกมิติ เช่น สตง.ตรวจสอบเรื่องการฮั้วประมูล, ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการและ ปปท.ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ โดยไม่ได้กำหนดกรอบเวลาแต่จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และสามารถชี้แจงต่อสังคมได้ ยืนยันแม้ตอนนี้จะยังไม่พบความผิดแต่สามารถตรวจสอบโครงการทั้งหมดที่มีกว่า 1,500 โครงการของกำนันนก ทั้งสองบริษัทที่ได้งานภาครัฐย้อนหลังได้ทั้งหมด โดยเบื้องต้นพบมีทั้งหมด 1,544 โครงการ ซึ่งหากมีการกระทำผิดเชื่อว่าจะต้องทิ้งร่องรอยหรือหลักฐานไว้อย่างแน่นอน แม้ว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีการร้องเรียนมาแต่ก็อยากให้คนที่ถูกข่มขู่ทำร้ายลอบยิงมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่
    
 หากพบว่ามีความผิดเพียง 1-2 คดี จะสามารถทำการตรวจสอบและยึดทรัพย์ในโครงการที่พบความผิดเท่านั้น ไม่รวมทรัพย์สินอื่นที่มีมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาทของกำนันนก ตรงนี้จะต้องมีการสืบสวนขยายผล ส่วนกรณีที่เลขา ปปท.ระบุพบข้อบ่งชี้ว่ากำนันนกเข้าข่ายมีความผิดฮั้วประมูลแต่วันนี้กลับบอกว่ายังไม่พบนั้น เชื่อว่าเลขาปปท.ซึ่งเป็นนักกฎหมายมีมุมมองหรือข้อมูลบางอย่างดังนั้นจำเป็นต้องนำมาพิจารณาเพื่อความรอบคอบในการดำเนินคดีและเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขอให้ประชาชนมั่นใจการทำหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
   
  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนคดีการยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ นั้น ต้องยอมรับว่า พยานหลักฐานมีเพียงพอและ ชัดเจนมากแล้ว สามารถเอาผิดกับผู้กระทำผิดได้ชัดเจน ส่วนกรณีมีตำรวจร่วมในวันงานด้วยนั้น ก็คงต้องรอทางกองปราบปราม ที่จะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในการแจ้งข้อหาใดๆ บ้างกับตำรวจ