หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ.2566 เปิดหมวกต้อนรับรัฐบาลพลเรือน ...*...
เริ่มต้นวันนี้ บารอน ขอสะกิดเตือน นายกฯพลเรือน ที่ชื่อ “เสี่ยนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน ชีวิตวันนี้ต่างกับเมื่อวานนี้อย่างสิ้นเชิง เป็นผู้นำรัฐบาล ย่อมต่างกับ ประธานบริษัทบริหารแสนสิริ สิ่งแรกเลยที่ ต้องระวัง คือ การควบคุมอารมณ์ อยู่ในสายตาของสังคม ต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ ...*...
นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณไปเรียบร้อยแต่เมื่อวาน วันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้นำรัฐบาล นั่งหัวหน้าโต๊ะ ในฐานะ นายกรัฐมนตรี เริ่มทำงานในทำเนียบฯทันที ประชุม ครม.นัดพิเศษ ก่อนที่ จะไปแถลงนโยบายรัฐบาล ที่มาจาก พรรคร่วม 11 พรรคการเมือง ต่อรัฐสภา ในวันจันทร์ที่ 11 นี้ หรือ ไนน์อีเลฟเว่น วันในอดีต ตึกเวิล์ดเทรด นิวยอร์ก ถูกโจมตี ถ้าถือสา ก็ว่าฤกษ์ไม่ดี ก่อนที่จะให้วันถัดไป วันอังคารที่ 12 นี้ เป็นการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนัดแรก ...*...
ได้ยินว่า จะประเดิมด้วยการแจกประชานิยมทันที คือ มติ ครม. จะพิจารณา ลดราคาพลังงาน กับ ไฟฟ้า ที่นี่ บารอน ขอสนับสนุนเต็มที่ แม้จะใช้วิธี ลดภาษีสรรพสามิต และ ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ส่วน วิธีลดค่ากระแสไฟฟ้า ก็ใช้วิธีง่ายๆ ขยายเวลาชำระหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตออกไป เพื่อที่ จะได้ลดค่าเอฟทีลงมา ไม่ได้แก้ปัญหาทางโครงสร้าง แต่เป็นช่องว่าง ให้ ประชาชนลดค่าใช้จ่าย เพื่อ ลดตัวเลขหนี้ครัวเรือนลงมา สวนทาง หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น เป็นหน้าที่ภาครัฐ ไปดำเนินการแก้ไข ก็หวังว่า กำลังซื้อจะเพิ่มขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ...*...
ยังจำคำพูดได้ไหมครับ ท่านรองตุ๋ย พีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่สวมหมวก รัฐมนตรีพลังงานอีกใบ ที่พูดไว้ก่อนหน้าว่า จะไปแก้ไขกฎหมาย 4 ฉบับ เพื่อ รองรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป ที่ ท่านรองตุ๋ย เคยคุยว่า น้ำมันสำเร็จรูปนำเข้า มีราคาถูกกว่าน้ำมันดิบที่นำเข้ามากลั่นในประเทศ เป็นต้นเหตุ ราคาน้ำมันในประเทศราคาแพง เพราะ ต้องเสียค่ากลั่นและค่าขนส่งหลายต่อบวกค่าภาษี เป็นการแก้ปัญหาทางโครงสร้าง บารอน ว่า ท่านรองตุ๋ย มาถูกทางแล้วครับ ...*...
แต่กับ นโยบายบ้านหลังแรก และ นโยบายขายคอนโดให้ต่างชาติถือสิทธิ์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่นี่ บารอน ว่า เป็นประเด็นละเอียดอ่อน อยากให้ พรรคเพื่อไทย ชะลอไว้ก่อน จะดูดีกว่าครับ จะถูกโจมตีเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน กลายเป็นเผือกร้อนในมือ ทั่นนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ที่ก้าวมาจากธุรกิจขายบ้านและที่ดิน ...*...
“บารอน” มองธุรกิจบ้านและที่ดินยามนี้ มีแต่กำลังซื้อ แต่ ธนาคารยังไม่ยอมปล่อยกู้ ทำให้ การขายบ้านและที่อยู่ได้รับผลกระทบ มีดีมานด์มีชัพไพน์ แต่ ขายบ้านไม่ได้ เพราะ ตัวเลขเอ็นพีแอลทุกธนาคารต่างขึ้นสูง เพียงแต่เลี่ยงบาลี ลงบัญชีเป็นดอกเบี้ยค้างจ่าย ทำให้ ไม่ต้องไปวางเงินสดสำรองกับแบงก์ชาติ มีบางแบงก์เริ่มขาดสภาพคล่องแล้วครับ ปล่อยนโยบายออกไป ก็ยังขายบ้านให้คนไทยไม่ได้ ...*...
นอกเสียจาก อยากขายคอนโดเหมาแท่งให้ต่างชาติมากกว่า โดยเฉพาะ ลูกค้าคนจีน ที่ก่อนหน้านี้ก็ใช้วิธีพลิกแพลง ขายคอนโดเหมาแท่งให้ลูกค้าเศรษฐีจีนไปหลายต่อหลายตึกมาแล้ว แต่ ต้องแก้กฎหมายหลายฉบับ อย่าลืมนะครับ เพื่อไทย สมัยเป็นฝ่ายค้าน เคยโจมตีต่อต้านรัฐบาลลุงตู่ ที่ จะออกนโยบายขายที่ดินให้ต่างชาติ กล่าวหาว่า เป็นนโยบายขายชาติ ทั้งๆที่ รัฐบาลลุงตู่ เพียงแค่ แก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงมหาดไทย เท่านั้น ว่าแต่เขา อิเหนาอย่าเป็นเอง ...*...
แต่กับ ผลโพล ที่ระบุว่า นโยบายขายฝัน ของพรรคเพื่อไทย ให้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ประชาชนต้องการมากที่สุด ประสา บารอน สงสัย ผลสำรวจโพลเฉพาะคนกรุงเทพฯ เพราะ คนกรุงเทพฯเท่านั้นที่ใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า แต่ ก็ขอภาวนาให้เป็นผลสำเร็จ ...*...
แม้ อุปสรรคที่สำคัญ คือ งบประมาณที่ต้องจัดหามาชดเชยผู้ประกอบการรถไฟฟ้า ว่ากันว่า ขี้หมูขี้หมาไม่น้อยกว่าปีละกว่าหมื่นล้านบาท เจอ นโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละหนึ่งหมื่นบาท ให้กับประชาชน 56 ล้านคน เป็นเงิน 560,000 ล้านบาท รัฐบาลก็ตูดขาดแล้วครับ ...*...
นโยบายนี้ที่ น่าเห็นใจที่สุด คือ รถไฟฟ้าบีทีเอส ของ เจ้าสัวภูผา นายคีรี กาญจนพาสน์ เพราะ เป็นการลงทุนของภาคเอกชนร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่ มีต้นทุนสูง แถม รายได้ยังต้องมีส่วนแบ่งให้ กทม. ...*...
ต่างกันริบลับกับ สายสีน้ำเงิน ที่เป็น รถไฟฟ้าใต้ดิน ที่ บีอีเอ็ม ผู้บริหาร เหมือนเสือนอนกิน ไม่ต้องเสียค่าสัมปทาน และ ไม่ต้องแบ่งรายได้ รัฐลงทุนค่าก่อสร้าง วางรางให้เสร็จสรรพ เพียงแค่ บีอีเอ็ม แค่ วางระบบ และ จัดการเดินรถ เท่านั้น ก็ฟันค่าโดยสารไปเต็มๆ ยังได้ของแถมมาฟรีๆ รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่เป็นของ รฟม.อีกต่างหาก ผู้โดยสารยิ่งมาก เพราะ ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทำให้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่ม เติมรายได้ให้ผู้รับจ้างมากยิ่งขึ้น ที่นี่ บารอน ก็ได้แต่ฝาก ทั่นนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ให้ความเป็นธรรมกับผู้ทำมากินมีความเท่าเทียมกัน ฝากเป็นการบ้านกลับไปคิด
ที่มา:บารอน (6/9/66)