# นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการของพรรคเพื่อไทยอีก 16 คน  โดยได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ครั้งนี้เป็นการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.66) จะมีการเข้าถวายสัตย์ฯ ตอนนี้อยากให้เห็นว่าเป็นรัฐบาลของประชาชน และพรรคร่วม 11 พรรค ซึ่งต้องให้เกียรติพรรคร่วมด้วย

นายเศรษฐา ระบุด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเราเทหมดหนน้าตัก การทำงานครั้งนี้ ตนเชื่อว่าเราเองก็มีท่านผู้มีเกียรติในที่นี้ที่ได้รับเกียรติจากพี่น้องประชาชน เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนเข้ามาดูแลบ้านเมือง และเมื่อลงไปพบปะกับประชาชน อย่าพูดว่าทำไม่ได้ เพราะประชาชนเลือกเข้ามาให้ทำงานให้ได้ 

# นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เปิดเผยภายหลังการประชุมกับตัวแทนพรรคการเมืองในการกำหนดสัดส่วนประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ สภาผู้แทนราษฎร จำนวน 35 คณะ นัดที่2 ว่า การประชุมเพื่อแบ่งกมธ. ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากพรรคการเมืองแต่ละพรรค ได้เตรียมความต้องการที่จะเป็นประธานแต่ละคณะมาแจ้งต่อที่ประชุม แต่ปรากฎว่าบางพรรคไม่ยอม โดยตั้งเป้ามาแบบไม่เปลี่ยน ไม่ถอย ไม่เจรจา ทำให้ตกลงกันไม่ได้ จึงยังไม่กำหนดการประชุมต่อว่าจะเป็นวันไหน เพราะตกลงกันไม่ได้

#  นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าพบ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอคำแนะนำในการทำงาน หลังจากได้รับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ที่บ้านพักส่วนตัว ซ.พหลโยธิน 62/1  

จากนั้นนายสุทิน เปิดเผยว่า การเข้าพบ พล.อ.อ.สุกำพล วันนี้ ได้ความมั่นใจ ความรู้ และได้กำลังใจ ซึ่งท่านก็เชื่อมั่นว่าตนจะทำได้ พร้อมให้คำแนะนำถ่ายทอดประสบการณ์ความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าต้องบริหารอะไรบ้าง อะไรเป็นความชอบธรรมอันดับแรก การวางตัวกับกองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและท่านได้ให้รายละเอียดที่เป็นประโยชน์ในหลายเรื่อง

# นายวันชัย สอนศิริ สว.ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในวันที่ 11 ก.ย.นี้ ว่า วันที่ 6 ก.ย.จะมีประชุมวิปวุฒิสภา คงจะมีการหารือและตกลงในหลักการและมอบหมายให้ผู้แทนของวิปวุฒิสภา หารือเรื่องเวลากับวิป 3 ฝ่าย ที่จะประชุม 7 ก.ย.

นายวันชัย กล่าวว่า เชื่อว่า สว.คงจะไม่ปล่อยให้รัฐบาลแถลงนโยบาย แล้วกลับไปเฉยๆ จะต้องหาคำมั่นหาคำยืนยันให้ชัดเจน ว่าสิ่งที่พูดไว้แต่ละเรื่องนโยบายทำได้จริงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าไฟ ค่าครองชีพ และนโยบายพักหนี้ต่างๆ เมื่อไรทำได้ ไม่ใช่เหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ หรือรัฐบาลอื่นๆ ที่แถลงนโยบายเสร็จเรียบร้อย ทำได้หรือไม่ ก็ไม่รับผิดชอบ