เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 29 ส.ค. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการจ่ายเงินสวัสดิการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าในการปฎิบัติหน้าที่พ.ศ. 2566 ว่า เป็นระเบียบของกรมอุทยานฯ ว่าด้วยการจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้พิทักษ์ป่า และเงินสวัสดิการที่เป็นนโยบาย ซึ่งตนได้ผลักดันมาตั้งแต่เริ่มเข้าทำงานที่ ทส. แต่ที่ต้องล่าช้า เพราะมีกฎหมายรองอยู่หลายฉบับ แต่เมื่อไม่นานมานี้มีกฎหมายที่เกี่ยวกับการจ่ายเงินสวัสดิการเพิ่งผ่าน ทำให้กรมอุทยานฯเร่งออกระเบียบใหม่ เพื่อสามารถให้กรมนำเงินรายได้จากอุทยานมาเป็นสวัสดิการ และชดเชยให้กับผู้พิทักษ์ป่า ระเบียบใหม่นี้สามารถชดเชย เยียวยา ผู้พิทักษ์ป่าได้สูงถึง 500,000 บาทในกรณีเสียชีวิต และมีการชดเชยกรณีบาดเจ็บ ลดหลั่นกันไป ในส่วนของสวัสดิการที่เชื่อว่ามีมากกว่าที่ผ่านมาพอสมควร และได้ขอให้ทางกรมร่างระเบียบให้กับเขตพื้นที่และเขตห้ามล่า ให้สอดคล้องกับประกาศดังกล่าว ซึ่งการทำเช่นนี้ตนหวังว่า ขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าจะมีมากขึ้นในยามที่ได้รับอันตราย บาดเจ็บ เสียชีวิต ทุพพลภาพ
เมื่อถามว่า ยังมีงานใดในกระทรวงที่อยากฝากไว้ให้กับรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า คงไม่ฝาก เพราะรัฐมนตรีแต่ละคนมีแนวทางการทำงานเป็นของตัวเอง ที่ตนทำมาเชื่อว่ายังมีหลายอย่างที่ค้างและหลายอย่างที่สำเร็จเป็นสิ่งที่รัฐมนตรีคนใหม่ต้องมาดำเนินการตามแนวทางที่เหมาะสม ตนไม่เข้าไปก้าวก่าย
เมื่อถามว่า เสียดายหรือไม่ที่ไม่ได้สานต่องานกระทรวงเดิม นายวราวุธ กล่าวว่า การทำงานทุกอย่างมีลาภ เสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มาเป็นรัฐมนตรีได้เราก็ออกจากรัฐมนตรีได้ สำคัญอยู่ที่ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเราได้ทำงานในองค์กรได้มากน้อยเพียงใด ดูแลเจ้าหน้าที่ข้าราชการในสังกัดได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อถึงเวลาที่จะต้องไป ก็จะได้ดีใจว่าเราได้ทำอย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนภารกิจต่อไปที่จะต้องทำคงต้องรอความชัดเจน หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้วจึงเริ่มศึกษางาน