เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2566 นายสรรเพชญ ยุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กแสดงจุดยืนในการเป็นฝ่ายค้านว่า
" วันนี้ ประเทศไทยได้มีนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 แล้ว ผมขอแสดงความยินดีกับคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย และขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาลชุดใหม่ที่จะต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อแก้ปัญหาที่รุมเร้าประเทศของเราอยู่ในขณะนี้
ทั้งปัญหาปากท้องของประชาชน และสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ ปัญหาสังคม และต่าง ๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม นอกจากการมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพแล้ว ประเทศของเราจำเป็นต้องมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ที่จะคอยตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของรัฐบาล ไม่ให้รัฐบาลใช้อำนาจในทางที่ผิด เอื้อประโยชน์เพื่อพวกพ้อง อันนำมาซึ่งการทุจริตคอรัปชั่น จนกลายเป็นต้นเหตุทางการเมืองที่ผ่านมา
ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า หากฝ่ายค้านทำงานอย่างมีคุณภาพแล้วนั้น ก็จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนเช่นกัน ดังที่ผมเคยประกาศผ่านทางเฟสบุ๊คของผม เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2566 ภายหลังการเลือกตั้ง และ ณ วินาทีนี้ ความเชื่อของผมก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”
“ดังนั้น ผมในฐานะ สส.ของพรรคประชาธิปัตย์โดยส่วนตัวผมแล้วผมไม่เห็นถึงความจำเป็นใด ๆ ที่พรรคจะต้องไปเข้าร่วมรัฐบาล เนื่องจากจำนวน สส.พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันมีมากกว่า 314 เสียงแล้ว ถือเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากๆ และถือว่ามีจำนวน สส. มากกว่าชุดรัฐบาลที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำ
ดังนั้น จำนวนเสียง สส.ฝ่ายค้าน แทบจะไม่สามารถทำให้รัฐบาลสะดุดล้มได้เลย เว้นแต่รัฐบาลจะสะดุดขาตัวเอง ด้วยเหตุผลที่กล่าวมานั้น ผมจึงอยากให้พรรคเดินหน้าทำหน้าที่เป็น “ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง” เหมือนกับที่ประชาธิปัตย์เคยพิสูจน์ผลงานมาแล้วในอดีต เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน
สำคัญที่สุดคือการกอบกู้ศรัทธาของพรรคให้กลับคืนมา แต่ถ้าหาก สส.ส่วนใหญ่ของพรรค คิดว่าอุดมการณ์ของผมนั้น ขัดแย้งกับเสียงส่วนใหญ่ที่ได้อ้างกันอยู่ในขณะนี้ และไม่สามารถร่วมอุดมการณ์เดียวกันได้แล้ว
ผมยินดีที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์ขับออกจากพรรค โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพราะผมไม่สามารถหักหลังพี่น้องชาวสงขลาที่ได้ให้โอกาสผม และผมยินดีที่จะตั้งใจทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านอย่างมีคุณภาพ ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ในฐานะผู้แทนของราษฎร ตามอุดมการณ์ที่ผมยึดถือมาตลอดครับ
สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมยึดถือและยึดมั่นเป็นสำคัญ ก็คือ คำขวัญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชาวประชาธิปัตย์ ยึดมั่นมาตลอด 77 ปี คือ สจฺจํ เว อมตา วาจา "คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย"