“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”...*...

เกมชักคะเย่ออำนาจต่อรอง เก้าอี้รัฐมนตรี ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะกับขั้วอำนาจเก่า หรือ “ก๊กลุง” ในรัฐบาลเดิม ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ จนกองเชียร์ลุ้นกันตัวเกร็ง…*...

ด้วย 2 เด้งการเมือง ทำแต้มต่อในมือเพื่อไทยพลิกตกเป็นรอง ช็อตแรก คือ การประกาศ “เท” เพื่อไทยอย่างเป็นทางการ จากพรรคก้าวไกล ที่ไม่โหวตให้กับแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย แม้จะเป็นเรื่องที่เดาไม่ยากอยู่แล้วว่าจะจบอย่างไร  แต่การดึงจังหวะมันพอเหมาะพอเจาะ ที่ไทม์ไลน์มาเทก่อนวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ขาด ว่าจะรับ หรือไม่รับคำร้องของผู้ตรวจฯ กรณีห้ามเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯซ้ำรอบ 2 ...*...

และตามมาด้วยมติศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตีตกคำร้องของผู้ตรวจฯ ทำให้กระบวนการเลือกนายกฯ ที่แช่แข็งมา 2 สัปดาห์ เดินหน้าทันที และได้วันโหวตที่ชัดเจนแล้วคือ 22 สิงหาคม จึงเกิดกระแสตีกลับ กลยุทธ์ โหวตก่อน แบ่งเค้กครม.ทีหลังของเพื่อไทย จากจุดแข็งกลายเป็นจุดอ่อน...*...

ด้วยเวลาที่กระชั้นเข้ามา ส่งผลให้แต้มต่อในมือ ลุงๆ น้าๆ ได้เปรียบ ฉะนั้นจึงได้ยินเสียงของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ย้ำชัดๆว่า ต้องเจรจาเรื่องโควตากระทรวงกันก่อนจะโหวตนายกฯ ...*...

โดยเฉพาะในปีของส.ว. ที่ก็รู้กันดีว่า คอนเน็กชั่นกับลุงเกือบ 200 คนนั้น มีส.ว.ตัวตึง ส่งสัญญาณในเชิงลบ ต่อ “เสี่ยนิด”เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยว่าชักจะไม่เข้าตา ไม่ใช่แค่ถูก ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ แฉเท่านั้น หากแต่ยังมีเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก ที่เป็นแรงบีบให้พรรคเพื่อไทยคิดหนักกับเกมนี้  ที่แม้พรรคเพื่อไทยจะมีแคนดิเดตนายกฯถึง 3 คน แต่หากใครถูกเชือดคาสภา ไม่ผ่านโหวตนายกฯก็เสียหายหนัก และเกมจะยิ่งตกเป็นรอง เก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงหลักๆในมือก็อาจถูกริบหมด!!...*…

สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยวันนี้ จึงเหมือนเดจาวู  ที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐ ในช่วงหลังเลือกตั้งปี 2562 ที่ต้องประเคนเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอ ให้กับ พรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ...*...

ขยันเดินตกท่อจริงๆ สำหรับพรรคก้าวไกล ที่ “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ดีกรีระดับรองประธานสภาฯ ที่จะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันกฎหมาย “เปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม” ของพรรคก้าวไกล เหตุฉไนจึงทำผิดกฎหมายห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสียเอง ด้วยการโพสต์ภาพและคลิปเชียร์ดราฟเบียร์ยี่ห้อหนึ่งของจ.พิษณุโลก...*...

แต่ทีน่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ การมั่วมาฉกฉวยโอกาสนี้ ของ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.พรรคก้าวไกล เตรียมผลักดันแก้ไข พ.ร.บ.กฎหมายเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ ให้ทุกคนมีสิทธิโพสต์และโฆษณาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ และสิทธิในการผลิตได้...*...

อ่านข่าวแล้วก็ได้แต่อุทาน  อิหยังวะ  ในใจเพราะประชาชนทั่วไปจะโพสต์ภาพขวดเหล้าเบียร์ ไม่มีรข้อความเชิญชวน ก็ไม่ได้มีความผิดตามกฎหมายนี้ แต่ถ้าเป็นคนมีชื่อเสียง อย่างดารา นักการเมือง อินฟลูเอ็นเซอร์เนี่ย โพสต์ไปแล้วมันจูงใจคนได้ อย่างนี้มันถึงเข้าข่ายความผิดเด้อ... ก้าวไกลจะแถ และตามไปแก้กฎหมายทุกฉบับ ที่ตัวเองหรือพรรคพวกฝ่าฝืนไม่ได้ …*…

ที่มา:ศรพระราม (18/08/66)