นาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อวันที่ 14 ส.ค.66 ตอน ตอน "ออกอาการ...วืด?" โดยระบุว่า สถานการณ์การช่วงชิงนายกฯ ขณะนี้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยจะวืดตำแหน่งนายกฯ และเพื่อไทยอาจชวดเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ส่วนสำคัญศาล รธน.จะชี้ขาดคำร้องและส่งผลถึงการโหวตนายกฯของรัฐสภาด้วย
นายจตุพร กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า ในช่วงนี้ ศาล รธน.จะเป็นจุดชี้ขาดทั้งหมด การโหวตนายกฯ ขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย โดยพรรคเพื่อไทยอยู่ในเงื่อนไขปนเปกันไปหมด ทั้งอยากได้นายกฯ อยากสละนายกฯ และต้องการรอไว้ก่อนจนมีความมั่นใจในเสียงโหวตที่แน่นอน ดังนั้น จึงเป็นช่วงชีวิตทางการเมืองที่อยู่ด้วยความสับสน
"มั่นใจว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดคนายกฯ เพื่อไทย จะไม่ได้เป็นนายกฯ และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นัดแถลงยกสอง (15 ส.ค.นี้) คาดเป็นการปิดฉากนายกฯ ของนายเศรษฐา อย่างสมบูรณ์แบบทันที ส่วนอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร (ลูกสาวทักษิณ ชินวัตร) เชื่อว่า คนที่อยู่ในเมืองไทยมีความประสงค์จะใช้ชีวิตอยู่ในไทยมากกว่าต้องออกนอกประเทศอีก และรู้สถานการณ์ว่า ถ้าให้อุ๊งอิ๊งเดินไปสู่นายกฯ จะเหนื่อยมากที่สุด"
นายจตุพร ประเมินว่า ถ้าการโหวตนายกฯ มาถึงมือพรรคภูมิใจไทยที่รู้สภาพเป็นอย่างดีว่า จะถือของร้อนกับตำแหน่งนายกฯ ไว้หรือไม่ หากส่งต่อไป หรือจะส่งให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ วันที่ 16 ส.ค. จึงเป็นหมุดหมายสำคัญ เนื่องจากศาล รธน. พิจารณารับคำร้องหรือไม่รับก็ตาม สภาย่อมรู้จะเดินไปอย่างไร
นอกจากนี้ นายจตุพร กว่าวว่า เพื่อไทยอยากเป็นรัฐบาล แต่ยกเหตุผลเฮงซวยมาอธิอบายทั้งสิ้น ยิ่งมาลำเลิกคนเสื้อแดง ท้าให้เผาบัตร 30 บาทจึงน่าสมเพชอย่างยิ่งกับความคิดของพวกนางแบก และนายแบกทั้งหลาย ที่คิดจะทวงบุญคุณจากคนเสื้อแดง แต่หารู้ไม่ว่า เป็นการทำลายเสื้อเกราะที่ป้องกันเพื่อไทยเสียเอง เป็นการทิ้งมวลชน จนวันนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว จะเอาอะไรไปต่อรอง แล้วยังไม่รู้สึกตัวอีก ชี้อนาคตเดินสู่หายนะ
ขอบคุณ:รายการประเทศไทยต้องมาก่อน