วันที่ 13 ส.ค.2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวในส่วนของพรรคว่า สถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลเป็นภาระหน้าที่ของพรรคแกนนำ จะไม่ไปก้าวล่วงว่าจะมีพรรคการเมืองใดเข้าร่วมหรือไม่ร่วม เพราะถือว่าเป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของแต่ละพรรคการเมือง ย่อมมีเหตุและผลที่แตกต่างกัน และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมีการพูดคุยกันในเรื่องร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด เพราะขณะนี้พรรคเน้นจุดเริ่มต้นการทำงานเชิงรุกในสภาผู้แทนราษฏรเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด การนำปัญหาไปพูดเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนในสภาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาคือหน้าที่หลักอันสำคัญ รวมไปถึงการนำเสนอร่างกฎหมาย ควบคู่ไปกับการผลักดันร่างกฎหมายที่พรรคได้ยื่นต่อสภาชุดที่ผ่านมา 19 ฉบับ ที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในสภาชุดนี้ผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ เช่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ที่จะทำให้คดีทุจริตมีการลดโทษได้ยากขึ้น เป็นมาตรการที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายราเมศ กล่าวว่า ในส่วนของการเลือกตั้ง คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ยังไม่ได้มีการกำหนดนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการเพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่ แต่อย่างใด แต่ขอย้ำว่าคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการยังคงทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนเรื่องการเลือกตั้งซ่อม เขต3 จังหวัดระยองว่า ทางพรรคจะรับฟังความเห็นของสมาชิกพรรคว่าจะส่งนพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ อดีตส.ส.ระยอง ลงในเขต 3  เชื่อมั่นในตัวผู้สมัครที่เป็นคนดี มีความรู้ความสามารถ เอาใจใส่ปัญหาของประชาชน มีประสบการณ์เป็นปากเป็นเสียงในสภาผู้แทนราษฏรได้เป็นอย่างดี