นาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อวันที่ 8 ส.ค.66 ตอน "หักดิบ?" โดยระบุว่า การแก้ปัญหาทางการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตนก็ต้องแลกกับการเสียทางการเมืองด้วย ยิ่งการตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยขณะนี้ จะไปตามสูตรไหนล้วนพังพินาศทั้งสิ้น เพราะต้องหักดิบและทรยศกับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา
ส่วนพรรคก้าวไกลจะโหวตนายกฯ ให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายจตุพร กล่าวว่า สส.ก้าวไกลได้ทำโพลส่วนตัวถามประชาชน และเสียงประชาชนส่วนใหญ่เป็นเอกฉันท์ไม่ให้โหวตให้เพื่อไทย ดังนั้น เมื่อการเมืองเป็นแบบนี้ การตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยจะยิ่งยากขึ้น เพราะก้าวไกลไม่โหวตนายกฯ ข้ามขั้ว
นอกจากนี้ ขณะที่หวังกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะมี สส.แยกตัวออกมาเป็นรายคนหรือเป็นกลุ่มมาหนุนการตั้งรัฐบาลนั้น เชื่อว่า ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้อยู่ดี และคงไม่ได้เสียงถึง 376 อีกอย่าง สว.คงไม่โหวตนายกฯ ของเพื่อไทย รวมทั้งถ้าไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตอนนี้ก็ไม่รู้จะเจรจาและจับมือกับใคร เนื่องจากพรรคนี้ยังบริหารจัดการตัวเองไม่ได้
อีกทั้งกล่าวว่า พรรคที่ไม่ตรงไปตรงมากับประชาชนต้องเจอกับผู้ชุมนุมทุกวัน โดยญาติวีรชนพฤษภา 2553 ไปให้กำลังใจที่พรรคเพื่อไทยในการตั้งรัฐบาล แต่ไม่เห็นด้วยกับการจับมือกับ ปชป. พปชร.และ รทสช. จึงแปรความได้ว่า การตั้งรัฐบาลไปไม่ได้อยู่ดี และถ้าฝืนเดินหน้าตั้งรัฐบาลก็ต้องหักดิบกับประชาชนอีก
"สิ่งที่น่ากลัวกว่าด้อมส้มคือ คนที่เลือกเพื่อไทยเอง เพราะคนพวกนี้ เขามีความรู้สึกว่า เขาถูกทรยศ ถูกหักหลัง ดังนั้น การอธิบายรัฐบาลข้ามขั้ว มาเป็นขั้วข้ามมาหาเอง หรือพูดคำใหม่เป็นสลายขั้ว แม้จะเลี่ยงการพูดเพื่อโชว์เหนือกว่าอย่างไรก็ตาม แต่ไม่มีวันจะสำเร็จ”
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งสำคัญจะรวบรวมเสียงตั้งรัฐบาลโดยเปิดเผยให้ได้เกิน 251 เสียงได้อย่างไร จะไปจับมือกับพรรคใด ถ้าไม่จับมือกับ รทสช. กับ พปชร. ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บอกแบบสบายใจว่า เดี๋ยวเขาก็มาชวน จึงแสดงถึงความนิ่งที่เหนือชั้นกว่าทางการเมือง
นายจตุพร ระบุว่า ออกมาสูตรไหนก็พังวินาศสันตะโร ถามไม่อับอายหรือ? ที่ทรยศสัญญาหาเสียง ฉะกล้ากลับกลอกหวังให้ ก้าวไกลช่วยโหวตผ่านนายกฯ
ขอบคุณ:รายการประเทศไทยต้องมาก่อน