เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 9 ส.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ไปขอขมาพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะที่พรรคภท. มีจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก.ก. มีความกังวลหรือไม่ที่จะกลับไปร่วมกับพรรค ก.ก. ว่า พรรค พท. ได้แถลงร่วมกันกับพรรค ภท. แล้ววันที่เราเสียงได้ 212 เสียง เงื่อนไขต่างๆ ก็มีความชัดเจน ถือว่าเป็นไปตามนั้น ต้องไม่กังวล
เมื่อถามว่า มั่นใจในพรรค พท. ว่าจะเหนียวแน่นเป็นเสียงตั้งต้นในการจัดตั้งรัฐบาล 212 เสียงหรือไม่นายอนุทินกล่าวว่า พรรค พท. เป็นแกนนำ ก็ต้องมีความน่าเชื่อถือสูงอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะนำพรรคอื่นๆ ได้อย่างไร อย่าไปกังวล พี่น้องประชาชนก็ไม่ควรกังวล เพราะได้มีการแถลงอย่างชัดเจนแล้ว ว่าเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมฯ ไม่มีอีกต่อไป พรรค พท. ได้ชวนพรรค ภท. มาจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเราจะร่วมจัดตั้งรัฐบาล 212 เสียง เพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแกร่งขึ้น เกิดความมั่นใจให้กับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี
เมื่อถามว่า พรรค ภท. จะช่วยหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า ต้องช่วยกันตามความสามารถแต่ละพรรค รวมถึงอีก 6 พรรคร่วมฯ ที่ตั้งโต๊ะแถลงข่าวไป เชื่อว่าทุกพรรคก็จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้
เมื่อถามว่า จะติดใจหรือไม่หากพรรค ก.ก. มีการโหวตให้ และหากมีการปรับครม. โดยนำพรรค ก.ก. มาเสริมเพื่อจัดตั้งร่วมกัน นายอนุทินกล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ถ้าไปร่วมรัฐบาลกันแล้วเราก็ต้องสนับสนุนกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่มีใครทำผิดกฎหมาย อยู่ด้วยกันทำให้เกิดความมั่นคงในเสถียรภาพทางการเมือง ถ้าเราปฏิบัติกันแบบนี้ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้ได้เสียง 228 เสียง มองว่าพรรคที่เหลือที่จะมาร่วมด้วยนั้น ควรจะเป็นพรรคไหนที่พรรค พท. จะไปเจรจา และนายอนุทินจะไปช่วยเจรจาด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าพรรค พท. ร้องขอมาตนก็ยินดีให้ความช่วยเหลือ ถ้าพรรค พท. ไม่ได้ร้องขอมา ก็ให้พรรค พท. ได้ทำหน้าที่ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่เรื่องสนับสนุนเอาใจช่วยเต็มร้อยอยู่แล้ว พร้อมเชื่อมั่นว่าการโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป จะจบที่พรรค พท.
เมื่อถามว่า กรณีที่ส.ว. มีข้อครหาต่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. หามีการเปลี่ยนตัวเป็นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. มองเรื่องนี้อย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ต้องไปถามส.ว. ในส่วนของพรรค ภท. เราชัดเจน เมื่อเราร่วมกันแล้วอยู่บนสปิริตการตัดสินใจร่วมกัน ถ้าพรรคพท. จะนำเสนอแคนดิเดตนายกฯ คนใดที่อยู่ในรายชื่อของพรรค พท. พรรค ภท. ก็ต้องสนับสนุน ถ้ามีโอกาสที่จะเสนอชื่อตนเองเป็นนายกฯ หรือไม่นั้น เอาไว้ให้พรรค ภท.เป็นแกนนำก่อนค่อยว่ากัน ส่วนติดใจหรือไม่กรณีที่นายเศรษฐาได้กล่าวพาดพิงหลายประเด็นในช่วงหาเสียงเลือกตั้งนั้น ในฐานะคนที่จะโหวตให้ การที่นายเศรษฐากล่าวหาตนก็ได้ตอบโต้ไปแล้ว ก็เป็นอันจบกัน อย่างที่บอกไป ตนกับนายเศรษฐาไม่ได้เพิ่งรู้จักกัน ตอนมาทำการเมืองตนก็รู้จักมา 20-30 ปีแล้ว เพื่อนกลุ่มเดียว ลูกก็รู้จักกัน ได้เคลียร์ใจกันไปพอสมควร
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าพรรคร่วมฯ จะสามารถรวมเสียงนายกฯ ได้ 375 เสียง จนทำให้ชื่อนายเศรษฐาผ่านเลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ในส่วนของพรรค ภท. เราจะให้การสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พท. อย่างเต็มที่ มั่นใจว่าพรรค ภท. 71 คน จะเสนอให้ทั้งหมด
เมื่อถามว่า ได้คุยกับส.ว.บ้างหรือไม่ในการหาเสียงมาหนุนโหวตเพิ่มให้แคนดิเดตนายกฯ พท. นายอนุทินกล่าวว่า ต้องไปฟังความคิดเห็นจากส.ว. สังคมทุกวันนี้เป็นสังคมที่ต้องฟัง จะเป็นข่าวดีข่าวร้าย ข้อติง หรือเสนอแนะ ถ้าเราไม่ใจร้อนเกินไปเราฟังแล้วไปคิดวิเคราะห์ ใช้สมาธิก็จะมีทางออก
เมื่อถามว่า มีส.ส.บางพรรคอยากร่วมรัฐบาล แต่พรรคไม่ให้มา แต่จะย้ายมาอยู่พรรค ภท. ได้รับการติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ณ ขณะนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น ไว้รอให้เกิดเหตุการณ์ก่อน เร็วไปพูดอะไรก่อนก็ไม่ได้ เดี๋ยวก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เรามีหน้าที่อะไรก็ทำให้ดีที่สุด ถ้ามันไม่สำเร็จเราก็บอกตัวเองว่า มันสุดๆ แล้ว ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวต้องถามพรรค พท. ว่าพรรค พท. มีนโยบายรูปแบบไหนในการใช้หาเสียงสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล เป็นสิ่งที่พรรค พท. ได้ดำเนินการไป ตราบใดที่ไม่มีความขัดแย้งปรับความเข้าใจและข้อตกลงที่มีร่วมกันระหว่างพรรค พท.และ ภท. ถือเป็นสิ่งที่ดี ลดความขัดแย้งให้ได้มากที่สุด
เมื่อถามว่า กรณีที่ส.ว.แสดงความเห็นขอโหวตนายกฯ ชื่ออนุทินนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนขอบคุณในความหวังดี ให้เป็นไปตามกลไก ถ้านึกถึงตน ตนก็รู้สึกดีใจ แต่ความเหมาะสมในเรื่องของกระบวนการกฎหมาย ต้องเป็นไปตามระบอบรัฐสภา