วันที่ 9 ส.ค.2566 ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุว่าพรรค พท.มีการนัดหารือกับพรรค ก.ก. เพื่อขอเสียงสนับสนุนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรว่า เราได้เรียนย้ำไปกับทุกฝ่ายแล้วว่า ประเทศชาติมีปัญหา 3 เรื่อง 1.วิกฤติรัฐธรรมนูญ 2.วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศและปากท้องของประชาชน 3.วิกฤติแบ่งสี แบ่งพวก ฉะนั้น เราจะใช้เวลานี้ในการช่วยกันคลี่คลายวิกฤติของประเทศให้ได้ ดังนั้น การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ตนจึงเสนอให้เป็นการจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ไม่ใช่การเปลี่ยนขั้ว แต่เป็นการสลายขั้วทั้งหมด อยากให้ทุกคนหาทางออก ตอนนี้เป็นโอกาสที่จะทำให้ความขัดแย้งต่างๆ ที่มีมากว่า 20 ปี สลายลงไป และเป็นโอกาสในการแก้ไขวิกฤติรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกลไกลสำคัญที่ทำให้ประเทศยังขยับไปไหนไม่ได้ และจะได้แก้ปัญหาของประชาชนด้วย
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาและทำให้สำเร็จได้ ที่สำคัญคือเราควรที่จะต้องดึงทุกพรรคทุกฝ่าย วันนี้พรรค พท.ได้ประกาศเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค พท. เป็นนายกฯ เราหวังว่าจะเป็นแกนกลางในการช่วยดึงทุกฝ่ายให้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมกัน เพื่อลดความขัดแย้ง และเร่งแก้ไขปัญหาที่ติดขัดอยู่ทั้งหมดได้มากขึ้น
“แถลงการของพรรคเพื่อไทยได้ชี้แจงชัดเจนว่า วันนี้เราต้องการทุกพรรคทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนฝ่ายไหน ส.ว.หรือ ส.ส.เป็นรายบุคคล มาร่วมกันให้การสนับสนุนเห็นชอบให้พรรค พท.เป็นแกนนำ ส่งนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีได้” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เราจะเร่งแก้ไขปัญหาประเทศชาติในหลายๆ เรื่อง เรื่องแรกคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่การประชุมในครั้งแรก ที่จะผ่านกระบวนการสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อร่างรัฐธรรมนูญ
ในส่วนของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เราจะนำนโยบายของพรรคเพื่อไทย เป็นแกนกลาง และดึงนโยบายที่ดีของทุกพรรคมาดำเนินการ หลายๆ เรื่องที่อยู่ในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรค ก.ก. เป็นเรื่องที่มีอยู่ในนโยบายของพรรค พท.อยู่แล้ว บางเรื่องที่พรรค ก.ก.เสนอก็เป็นสิ่งที่ดี หรือหากพรรคอื่นเสนอเรื่องที่ดี เราก็จะสนับสนุน ยืนยันว่าเราจะสร้างมิติทางการเมืองแบบใหม่ ไม่จำเป็นที่ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลจะต้องแย้งกันทุกเรื่อง หากอะไรที่ฝ่ายค้านนำเสนอแล้วดี เราก็นำมาปฏิบัติ อะไรที่เราทำผิดครรลองครองธรรมฝ่ายค้านก็สามารถตรวจสอบได้อย่างเข้มข้น เราจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงจะเข้าหาทุกคนทุกฝ่าย ซึ่งเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา เราได้คุยกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า แล้ว โดยในการแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ จะมีพรรคชาติพัฒนากล้าร่วมด้วย ในส่วนของพรรคเพื่อไทรวมพลัง ได้แจ้งว่าติดภารกิจที่ต่างจังหวัด ก็ไม่เป็นไร เพราะการแถลงในวันนี้ยังไม่ใช่ที่สิ้นสุด เราจะมีการแถลงต่อไป
สำหรับพรรค ก.ก.นั้น เราได้ติดต่อประสานงาน และอยากจะใช้เวทีนี้ในการพูดคุยกันว่า วาระสำคัญของประเทศเป็นเช่นนี้ ถ้าจะสามารถทำให้ความต้องการของประชาชนบรรลุความสำเร็จได้ เราอยากให้เขาร่วมในการแสดงเจตจำนงในการโหวตนายกฯ ครั้งนี้
“ไม่ว่าอะไรที่เคยเกิดขึ้น หรืออะไรที่เคยเป็นปัญหา อาจจะมีส่วนจากพรรค พท. หรือมาจากผมเอง เรายินดีไปขอโทษ ขอขมา และยินดีที่จะไปแสดงความต้องการ และแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการหาทางออกให้วิกฤติประเทศครั้งนี้ จะให้ไปที่พรรคก้าวไกล เราก็ยินดี วันนี้เรายินดีไปทุกพรรค ถ้าคิดว่านี่คือทางออกที่จะแก้ปัญหาประเทศได้” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ขณะนี้กำลังนัดเวลากับพรรค ก.ก.อยู่ วันนี้เราคิดเรื่องใหญ่ของประเทศเป็นหลักเราไม่ได้คิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเรื่องของตัวบุคคลเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากจะทำงานใหญ่ ก็ต้องคิดให้ใหญ่ด้วย ต้องมองข้ามความขัดแย้งเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “ไล่หนูตีงูเห่า” หรือความขัดแย้งในหลายๆ เรื่อง เอาวาระของประเทศเป็นที่ตั้ง ถ้าแก้ไขปัญหาคราวนี้ได้ คิดว่าประเทศไทยนับหนึ่งและเดินหน้าได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่มีการสื่อสารไปยังพรรค ก.ก. ได้รับการตอบกลับมาอย่างไรบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้เราติดต่อทุกพรรค และได้การตอบรับที่ค่อนข้างดีในจุดเริ่มต้น แต่คงมีปัญหาในรายละเอียด ซึ่งต้องทำความเข้าใจกัน หาความมั่นใจ ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่เราจริงใจจะทำ พรรค พท.ยินดีที่จะยืนยันตามเจตจำนง ซึ่งตัวเลขทางคณิตศาสตร์เห็นชัดเจน ถ้าวันนี้เราตั้งรัฐบาลไม่ได้ เราก็มีทางเลือกไม่กี่ทางซึ่งหลายทางเลือก หากจะให้รัฐบาลตั้งได้ โดยยึดวาระประเทศเป็นที่ตั้ง ก็จำเป็นที่จะต้องไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งก็มีต้นทุนที่ต้องจ่ายทั้งนั้น มีเรื่องที่ประชาชนอาจมีความไม่สบายใจ
“วันนี้พรรค พท.เรายอมทำทุกอย่าง หวังว่าถ้าให้โอกาสเรา เราจะพิสูจน์ ด้วยการทำงานของเรา นายกรัฐมนตรีของเรา ประสบการณ์การทำงานของเรา และบุคลากรของพรรค พท. เราเชื่อว่าจะสามารถฝ่าวิกฤติ เอาทุกๆ อย่างมาทำงานให้ได้ เรายินดีร่วมกับทุกพรรค ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายอิสระ เพื่อที่จะทำงานนี้ให้ได้ นี่คือเจตนารมย์ของเรา” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า จะทําทั้งนโยบายดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท, ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท, ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หรือนโยบายที่แก้ไขโครงสร้างอันเป็นประโยชน์ แต่มีอยู่เงื่อนไขเดียว คือเรื่องการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลัก ส่วนนี้เราไม่แตะต้อง เพราะคิดว่าเป็นจุดศูนย์รวมของประเทศ หากเสนอเรื่องนี้มา เราก็คงเข้าร่วมไม่ได้ เป็นจุดยืนของพรรค พท.
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าต้องให้ประเทศเดินหน้า หมายถึงถ้ามีพรรค 2 ลุงก็สามารถร่วมรัฐบาลกันได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนพูดชัดเจน เราไม่มีขั้ว เราสลายขั้ว วันนี้คืออะไรก็ได้ ย้ำว่าวันนี้ไม่มีลุง และพยายามทำให้เจตนารมณ์ของประชาชนสัมฤทธิ์ผลมากที่สุด
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทรวมพลัง ระบุว่ายังไม่ได้ตัดสินใจร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เท่าที่คุยทุกพรรค ยังไม่มีใครบอกว่าจะไม่ร่วม ทุกคนอยากฟังรายละเอียด ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าเราเอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ การยอมรับอาจมีหลายระดับ ตนคิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งรัฐบาลให้ได้ ส่วนนโยบายที่ยังไปไม่ถึงกัน สามารถดำรงเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็ดี ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายหลายๆ อย่างร่วมกัน ดังนั้นขอให้เป็นการเมืองในมิติใหม่ ไม่ใช่การเมืองที่ต้องค้านกันทุกเรื่อง ไม่ว่าฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล บางเรื่องก็สามารถร่วมกันได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ไปขอเสียงจากพรรค ก.ก. หมายความว่าเสียงที่ได้จาก ส.ว.นั้นไม่เพียงพอใข่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเรียกร้องทุกฝ่าย ทั้ง ส.ว.ทุกคน โดยเรียกร้องทั้งรายบุคคล และกลุ่มการเมืองทุกกลุ่ม พรรคการเมืองทุกพรรค ซึ่งอยากให้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งที่อยู่มา20 ปี วันนี้พรรค พท.อาสา และมีต้นทุนที่ประชาชนต้องตรวจสอบ ถ้าทำไม่ได้ในอนาคตข้างหน้าประชาชนจะเป็นคนตรวจสอบพรรค พท.เอง
เมื่อถามว่า ตอนนี้รอคำตอบจากพรรค ก.ก.ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ได้รับคำตอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากทุกพรรค ทุกฝ่าย ซึ่งวันนี้สามารถแถลงได้จำนวนหนึ่ง และในวันที่ 9 สิงหาคม ก็สามารถแถลงได้อีกจำนวนหนึ่ง รายละเอียดต่างๆ จะเกิดขึ้นจนกว่าเราคิดว่าไปไม่ได้ เราจะแถลงต่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเรียกคะแนนในการโหวตนายกฯ เพื่อร่วมรัฐบาลได้อย่างไร ในเมื่ออาจมีเส้นแบ่งกับบางพรรค นายภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่คุย ไม่มีใครขอร้องตำแหน่งกระทรวง จะเห็นว่าการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ต่อเนื่องมา เรายังไม่ได้ยินว่าใครจะเอากระทรวงใด เราพูดชัดเจนในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่คุยเรื่องกระทรวงกับใคร วันนี้เราต้องฝ่าวิกฤตกับรัฐธรรมนูญที่ผิดปกติ เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรี ตั้งรัฐบาลเสร็จแล้วอยากให้มีการประสานงานกัน เพื่อทำงานได้อย่างเต็มที่ ฝ่ายค้านตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลประโยชน์ประชาชนได้รับการยอมรับ
เมื่อถามว่า การโหวตฟรีแต่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลเป็นไปได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าคิดแบบเก่าว่าต้องได้กระทรวงใดก็เป็นไปไม่ได้ หากบอกว่าเราอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นระยะเวลา 20 ปีแล้ว มีระบบรัฐธรรมนูญ และกติกาประเทศที่บกพร่อง และสามารถเป็นปกติได้ ทุกอย่างก็ไม่ต้องถามแย่งกัน เราจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดตั้งรัฐบาล หากไม่ได้ พรรค พท.จะบอกประชาชนว่าทำเต็มสุดความสามารถแล้ว สิ่งต่างๆ ต่อจากนั้นไป ไม่ใช่พรรค พท.คนเดียวที่ต้องรับผิดชอบ ประชาชนทั้งหมดต้องรับผิดชอบ ตนอยากเห็นการช่วยกันแก้ปัญหา เพราะปัญหาที่พูดถึงเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ ส่วนที่ยังมีมวลชนใช้อารมณ์แก้ปัญหา คิดว่าเราต้องอดทนและทะนุถนอมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรค ก.ก.ยังมีโอกาสร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถามตนไม่ได้ ต้องถามว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จะเกิดขึ้นได้อย่างไร และตัดสินใจร่วมกันอีกครั้ง