“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”...*...
หมากกลการเมืองบีบเข้าล็อก “ขั้วอำนาจลุง” เป็นสเต็ป โบ๊ะ บ๊ะ ที่ “เพื่อไทย” ชั่วโมงบินสูงกว่าย่อมรู้ทางลมว่า ยากจะฝืน...*...
แม้จะสลัดหลุดออกจากก้าวไกล แต่ก็จะมูฟออนไปแบบหล่อๆ ทว่าก็ดูเหมือนดั่งนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง ให้มีเหตุอันต้องเลื่อนโหวตนายกฯออกไปจากวันที่ 4 สิงหาคม ทำให้ดีลรัฐบาลใหม่ยังจบไม่ได้!!...*…
ด้วยเงื่อนไขสำคัญ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เลื่อนวินิจฉัยรับ-ไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมรัฐสภามีมติห้ามเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯซ้ำรอบที่ 2 ลากยาวไปถึงวันที่ 16 สิงหาคม เวลา 09.30 น....*...
กระทบชิ่งกันไปกลายเป็น “โดมิโน” นัดหมายโหวตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ที่เตรียมชงชื่อ “เสี่ยนิด”เศรษฐา ทวีสิน ในวันที่ 4 สิงหาคม ให้ต้องเลื่อนออกไปก่อนเช่นกันเพื่อรอผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ...*...
และก็ทำให้แผนการเปิดโผว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล ของพรรคเพื่อไทย ที่เดิมภูมิธรรม เวชยชัย นัดแถลข่าวเอาไว้ในเวลา บ่าย 3 โมงของวันที่ 3 สิงหาคม ก็พลอยเลื่อนออกไปด้วย ที่ก็เชื่อว่า ที่สุดจะกระทบดีเดย์กลับบ้านของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการแลนดิ้งตอนการเมืองนิ่ง...*...
ส่วนการที่ต้องเลื่อนออกไปถึง 2 สัปดาห์ ก็อาจเขย่าสูตรรัฐบาลของเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะดึงภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์เข้าร่วม โดยไม่มีพรรคลุง หากทอดเวลาออกไป หลัง 16 สิงหาคม ก็อาจไม่แน่ว่าวันนั้นจะมีดีลลุงเข้ามาร่วมหรือไม่ ...*...
อภินิหารลุง ยังส่งสัญญาณแรงชัดไปที่ “ภูมิใจไทย” ที่พรรคพลังประชารัฐ เดินเกม “บล็อกเอาไว้” ให้ไปไหน ก็ต้องกอดคอไปด้วยกัน เป็น 111 เสียง คือพลังประชารัฐ 40 ภูมิใจไทย 71 ทำให้ไม่สามารถปิดดีลได้สำเร็จ เพื่อไทยจึงต้องเผชิญวิบากกรรม เดียวกับก้าวไกล ที่โดน 250 ส.ว.สกัด...*...
ส่วนประชาธิปัตย์นั้น หลุดบล็อกไปแล้ว ใจไปอยู่กับเพื่อไทยเหลือแต่เพียงร่างกาย โดยเฉพาะ 19 ส.ส.ใต้ปีกของ เฉลิมชัย ศรีอ่อน และตัวตึง เดชอิศม์ ขาวทอง ที่มีข่าวบินไปฮ่องกงพบ “ทักษิณ” ...*...
“สัปดาห์ที่ผ่านมาเดินทางไปแก้บนหลายประเทศที่รวมถึงในประเทศไทย เนื่องจากได้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้เพื่อขอให้ภรรยาของผมชนะการเลือกตั้ง จึงเดินทางไปทั่ว และได้เจอคนมากมาย ส่วนได้ไปพบนายทักษิณหรือไม่นั้น ผมไม่ขอพูดดีกว่า”...*...
และชัดยิ่งกว่าชัด ก็คือที่ “เดชอิศม์” ตอบคำถามนักข่าวที่ว่า ในอดีตพรรคประชาธิปัตย์เคยอยู่ต่างขั้วกับพรรคเพื่อไทย จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวตอบว่า “วันนี้เหตุการณ์เปลี่ยน คนก็เปลี่ยนไปหมด เหลือแต่ยี่ห้อของพรรค คนในพรรคเปลี่ยนไปหมดแล้ว ปัญหาของปนะเทศวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ความต้องการของประชาชนก็เปลี่ยนไป วันนี้ประชาชนต้องการแก้ปัญหาปากท้อง แต่ถ้าเราเอาความแค้น ความชิงชังส่วนตัว มาเป็นหลัก ผมคิดว่าไม่ยุติธรรมกับประชาชน” จบนะ!! ...*...
ที่มา:ศรพระราม (04/08/66)