เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ส.ค. 66 นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีการแจ้งยกเลิกการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ในเวลา 15.00 น.ในวันเดียวกันนี้ว่าวันนี้ศาลธรรมนูญเลื่อนการพิจารณาไปเป็นวันที่ 16 ส.ค. จึงมีการเลื่อนวาระการเลือกนายกฯ ไป พรรคเพื่อไทยจึงเลื่อนการแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาลออกไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้พรรคเพื่อไทยมีเสียงเพียงพอในการจัดรัฐบาลแล้ว แต่เมื่อเลื่อนไปก็มีเวลาทำงานมากขึ้น การแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายยิ่งได้มากก็ยิ่งดี

 

นายภูมิธรรม กล่าว่า ตอนนี้รวบรวมเสียงจากพรรคร่วมเดิมและพรรคการเมืองจากอีกขั้วได้จำนวนหนึ่งและต้องมีเสียง สว. อีก เพราะวันนี้เราอยู่ใต้วิกฤติการณ์รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งกำหนดเงื่อนไขว่าต้องได้เสียงเกิน 375 เสียง จึงอยากเสียงสส. ให้มั่นคงมากที่สุด เพราะจะทำให้เกิดรัฐบาลที่มั่นคง และมีประสิทธิภาพสามารถบริหารทิศทางการทำงานทั้งหมดได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น 

 

นายภูมิธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวที่่พรรคเพื่อไทยไม่ง้อเสียงจากพรรคก้าวไกล ว่า ไม่ใช่ประเด็น ในการประชุมกันของคณะเจรจา เมื่อถอนตัวจาก MOU แล้วถือว่าทุกฝ่ายเป็นอิสระต่อกัน ส่วนพรรคก้าวไกลจะโหวตให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ก็นับว่าเป็นเอกสิทธิ์ ตอนนี้ต้องสร้างมิติใหม่ทางการเมือง ซึ่งเราสามารถทำงานทางการเมืองร่วมกันเพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนได้ อะไรที่เป็นประโยชน์ก็ยินดีสนับสนุน ถ้ารัฐธรรมนูญที่จะปลดล็อคปัญหาของประเทศก็ต้องสนับสนุนร่วมกันเพราะเป็นการช่วยเหลือประเทศ รวมถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่อยู่ในเอ็มโอยู เราก็สนับสนุนอยู่แล้ว ยกเว้นประมวลกฎหมายยามาตรา112 เราไม่เห็นด้วย

 

“หากโหวตให้เรา ก็ขอบคุณ แต่ถ้าไม่โหวตให้ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน ที่พูดทั้งหมดหมายความว่าอย่างนี้ อย่าไปบอกว่าอ้วนจะว่าอย่างนั้น อย่างนี้ นี่คือข้อเท็จจริง ผมยืนยันได้ ทั้งคุณชัยธวัช คุณศิริกัญญาคุณพิจารณ์ ทั้งสามคนยืนยันในสิ่งที่ผมพูดได้”

 

ส่วนการออกมาบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยเจรจาให้พรรคก้าวไกลถอยเรื่อง 112 นั้น นายภูมิธรรมระบุว่าน่าจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เพราะเราพูดไปแล้วว่าไม่เอาการแก้ไข 112 เราแสดงท่าทีชัดเจนตลอดว่าไม่เห็นด้วย ส่วนจะไปแก้อย่างไรก็ให้เป็นกระบวนการในสภา หากจะดำเนินการก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคล โดยที่ผ่านมากการเจรจากับพรรคการเมืองขั้วเดิมเราก็ได้แจ้งให้ทราบว่ามีเงื่อนไขใดบ้าง พร้อมช่วยหาทางออกว่าทำอย่างไร จึงต้องเอาให้ชัดเจน ขอยืนยันในสิ่งที่พูดทั้งหมด

 

“หากจะเดินหน้าไปได้ ประเทศต้องปรองดอง การฟังทุกความคิดของทุกพรรคการเมือง ของทุกกลุ่ม ที่มีตัวแทนเลือกเข้ามาอยู่แล้ว เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ถ้าเป็นรัฐบาลที่ขึ้นมาจากความหลากหลาย ก็จะได้รับความยอมรับ อยู่ที่ว่าพรรคไหนร่วมกันอย่างไร หรือสังคมเห็นอย่างไรสิ่งนั้นจะเป็นคำตอบ” นายภูมิธรรมกล่าว

 

ส่วนเรื่องที่นายชูวิทย์ ออกมาแฉนายเศรษฐานั้น จะกระทบต่อการเป็นถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ไม่เป็นอะไรเป็นเรื่องของนายเศรษฐา ส่วนกรณีการเลื่อนกำหนดการกลับบ้านของนายทักษิณ ชินวัตร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับท่าน และครอบครัวว่าอย่างไร ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากทางครอบครัว