วันที่ 3 ส.ค.2566 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานที่ประชุม ได้หารือถึงประเด็นให้สภาฯ เร่งตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ จำนวน35 คณะ โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือว่าขอให้พิจารณานัดประชุมตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อประชุมแบ่งโควต้ากรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ 35 คณะ โดยไม่ต้องรอให้การจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อย เหมือนที่เคยปฏิบัติ เนื่องจาก สภาผู้แทนราษฎรมีวาระที่ต้องแก้ปัญหาให้ประชาชน ดังนั้นกลไกของกมธ.จะช่วยแก้ปัญหาได้ อีกทั้งกลไกของสภาฯ แยกส่วนจากรัฐบาล อีกทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งกับพรรคการเมืองว่าสามารถแบ่งสัดส่วนกมธ.ตามพรรคการเมืองได้
ทั้งนี้นายสุธรรม แสงประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายคัดค้านเนื่องจากมองว่ากระบวนการของกมธ. ควรยึดประเพณีหลังจากที่ตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ อย่างไรก็ดีตนเห็นด้วยกับข้อกังวลของสส.ก้าวไกล แต่มองว่าควรอ
ขณะที่ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาฯ ปี2562 ซึ่งบังคับใช้มาโดยอนุโลมมาถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ตนมองว่าควรตั้งกมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาแก้ไขโดยเฉพาะข้อ90 ว่าด้วยกมธ.สามัญ ว่าจะมีจำนวนกี่คณะก่อน อย่าไงรก็ดีมีความเห็นแย้งจากนายณัฐวุฒิ บัวประทุม มองว่าการบังคับใช้ข้อบังคับการประชุมดังกล่าวเป็นฉบับถาวร และที่ผ่านมาไม่เคยมีการเสนอแก้ไข หรือเสนอญัตติแก้ไข ดังนั้นตนมองว่าควรแจ้งให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เร่งนัดประชุมตัวแทนพรรคการเมืองเพื่อหารือต่อการแบ่งจำนวนกมธ.สามัญให้กับแต่ละพรรคการเมือง
ทางด้าน นายปดิพัทธ์ แจ้งว่าตนจะนำประเด็นที่หารือ ทั้งประเด็นการตั้งกมธ. 35 คณะ และการแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาฯ แจ้งไปยังประธานสภาฯ เพื่อหาแนวทางต่อไป