วันที่ 27 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่า นายนครชัย ขุนณรงค์ หรือ ไอซ์ สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล เคยถูกต้องโทษจำคุก ถือว่าขาดคุณสมบัติในการเป็นส.ส. และล่าสุดวันนี้ นายนครชัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุคส่วนตัวประกาศลาออกจากการเป็นสส.ระยอง และยอมรับว่า ตนเองเคยต้องโทษจำคุก 3 ปี แต่รับสารภาพ ทำให้ได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน เมื่อ24ปีที่แล้วนั้น 

ในกรณีดังกล่าว คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องพิจารณาต่อด้วยว่า นายนครชัย เข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ในมาตรา151 หรือไม่ ที่ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทําหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี

ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาลมีคําสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดํารงตําแหน่งดังกล่าวให้แก่สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย

ทั้งนี้หากนายนครชัย มีความผิดตามมาตรา151 ก็จะเหมือนกับในกรณี ที่กกต. เคยแจ้งความดำเนินคดี ตามมาตรา 151 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. กับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าอนาคตใหม่ มาแล้ว ในข้อหารู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมีให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อของตนเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ กรณีถือหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด (หุ้นสื่อ) และหากไม่ดำเนินการ กกต.จะมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมา