เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 ก.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยที่ประชุมรัฐสภาสามารถเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซ้ำได้หรือไม่ว่า เรื่องนี้เราไม่ก้าวล่วง แต่ต้องดูกลไกของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะรับพิจารณาหรือไม่ หากรับพิจารณาจะมีระยะเวลาในการดำเนินการ แต่ถ้าไม่รับเรื่องก็จบ แต่เท่าที่เห็นมีนักวิชาการอิสระยื่นเรื่องไปก่อนหน้านี้แล้ว และความเห็นประเด็นดังกล่าวมีหลายฝ่าย อย่างนายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมองว่าไม่สามารถยื่นได้ แต่เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินบอกว่า ยื่นได้ จึงต้องไปพิจารณาดู ซึ่งไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่ ซึ่งถ้ารับองค์คณะต้องประชุมเพื่อพิจารณา

 

นายธนกร ยังกล่าวถึงการประชุม สส. รทสช. วันที่ 26 ก.ค. ว่า คาดว่าจะมีการพูดคุยในหลายประเด็นโดยจะมีการนำผลการหารือกับพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งรัฐบาล มาคุยในที่ประชุมว่าพรรคจะมีทิศทางอย่างไร

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคก้าวไกล ระบุว่าจะไม่ร่วมงานกับ พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ นายธนกร กล่าวว่า "เราพูดตั้งแต่ต้นตั้งแต่เลือกตั้ง เราก็ไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลเนื่องจากมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112"

 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ปรารภและมีความกังวลเกี่ยวกับการเสนอให้ยืดระยะเวลาการสรรหาตัวนายกรัฐมนตรีออกไปหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้คุยกับตนเรื่องนี้ แต่เข้าใจว่าท่านมีความเป็นห่วง และพูดมาตลอดว่ามีความเป็นห่วงใยสองประเด็นคือ ความขัดแย้งทางการเมือง ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งของคนภายในประเทศ เพราะไม่ต้องการให้หวนกลับไปสู่จุดที่เคยเกิดปัญหาขึ้นมาอีก และในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ก็มีความเป็นห่วง อยากให้มีรัฐบาลใหม่โดยเร็ววัน เพื่อเดินหน้าประเทศต่อไป ในสิ่งที่ได้วางรากฐานเอาไว้ 

 

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับตนเองเคยบอกว่าเลือกตั้งเสร็จควรให้รีบตั้งรัฐบาล แต่พอตั้งไม่ได้ กลับบอกว่ารออีก 10 เดือนดีกว่า ตนมองว่าไม่ใช่เป็นการทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง เป็นการทำเพื่อตัวเองหากเป็นแบบนี้ ประเทศเราไม่ไหว เพราะนักธุรกิจ เอกชน เขารอรัฐบาลอยู่ ดังนั้น กลไกการตั้งรัฐบาลถ้าอันดับ 1 ไม่ได้ อันดับ 2 ก็ต้องจัด  ถ้าอันดับ 2 ไม่ได้ ก็ต้องเป็นอันดับ 3 เป็นเรื่องปกติ ฉะนั้น วันนี้เมื่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกำลังดีขึ้น จึงมีสิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่ควรทำต่อในหลายๆเรื่อง พร้อมย้ำว่าการรอ 10 เดือนไม่ควร ฉะนั้น ขอให้เห็นแก่ประชาชนแล้วกัน