“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเหนิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”…*…
เดดล็อกการเมือง จากสัญญาณ 5 พรรค “ภูมิใจไทย – ชาติพัฒนากล้า – รวมไทยสร้างชาติ – ชาติไทยพัฒนา - พลังประชารัฐ” ยื่นเงื่อนไขเดียวจะยกมือโหวตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ก็ต่อเมื่อในพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ปราศจากพรรคก้าวไกล!! ก็เหมือนบังคับให้หย่าเมียหลวง ...*...
อา...แต่เพื่อไทยจะฉีกทะเบียนสมรส เอ้ย MOU ยังไง ในเมื่อม็อบทะลุวังก็ฮึ่มๆ เข้าไปบุกโรยแป้งถึงพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม 5 พรรคที่ตั้งกำแพงเช่นนี้แล้ว เป็นท่วงทำนองเดียวกันกับ ส.ว.ที่ชัดเจนจาก เสรี สุวรรณภานนท์ ว่า พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องมาคุย ...*...
“จุดยืนของ สว. ชัดเจนแล้วว่า หากมีพรรคการเมืองใด ที่จะแก้รัฐธรรมนูญในหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 หรือแก้ไขกฎหมายใดที่จะไปกระทบต่อสถาบันหลักของชาติ สว. ก็จะไม่สนับสนุน และหากมีการพูดคุยกับคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทย ก็อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีบทบัญญัติถึงการทำหน้าที่ของ สว. ที่จะต้องไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง ดังนั้นจึงเห็นว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องเดินทางมาพูดคุยกับ สว. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา”...*...
อยากจะร้องเป็นเพลงให้ก้าวไกล “ใครๆก็ไม่รักผม ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย” เฮ้อ...สงสารก็แต่ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ต้องเอาอนาคตการเมืองมาสังเวยเกมเขย่าสถาบัน มาตรา 112 หากไม่เข็นเรื่องนี้ออกมาเป็น ก็คงไม่กลายเป็น “งูพันคอ” ตัวเองเช่นนี้ ...*...
ส่วนก้าวไกล ก็เหลือทางเลือกแค่ 2 ทาง คือ “ลงถนน” หรือ “ด้าน” แบบที่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เพื่อฉุดเพื่อไทย ให้กลายเป็นฝ่ายค้านไปด้วยกัน แม้จะเป็นไปได้ยาก ฟังจากปาก “พิธา” วันนี้ยังเชื่อใจเพื่อไทยที่จะใช้ทุกวิถีทางในการยึดสัจจะที่เคยให้ไว้กับประชาชนและก้าวไกล อย่างที่เคยพูดไว้หาก 8 พรรคร่วมจับมือกันไว้ก็ไม่มีใครมาบีบก้าวไกลได้ และยังจะสามารถดึงพรรคอื่นเข้ามาร่วมตั้งรัฐบาลได้อีกด้วย ...*...
พูดอีกก็ถูกอีก ถ้ายังกอดกันแน่น 8 พรรค ก็ไม่มีใครตั้งรัฐบาลแข่งได้ เพราะ 188 เสียง แม้จะโหวตนายกฯได้ เสียง สว.มาหนุนเพิ่มตั้งรัฐบาลสำเร็จ แต่ก็อาจจะต้องยุบสภาฯไป ไม่ผ่านกฎหมายงบประมาณและญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ อันนั้นคือ ในหลักการ ...*...
ทว่าในความเป็นจริง “มันคือกล้วย” ที่เป็นตัวแปรสำคัญ ยิ่งมีข่าวเขย่าขวัญว่า จะมีการยุบพรรคก้าวไกลด้วยแล้ว อีก 3 เดือนข้างหน้าด้วยแล้ว สิ่งที่เห็น กับสิ่งที่เป็น อาจจะเป็นคนละเรื่องกัน หมากการเมืองมันซับซ้อน ...*...
อย่างไรก็ตาม สัญญาณแรงชัด ให้มันจบที่เพื่อไทย ยังไงเสีย งานนิ้ ก็ต้องปิดจ๊อบให้ได้ ให้ไว เพราะนายใหญ่ไม่อาจรอได้นาน ที่ “หมอชลน่าน” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จะเดินตามรอย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนหลังเลือกตั้งปี 62 ก็มีสูง เช่นเดียวกับ เศรษฐา ทวีสิน ที่ทั้งคู่อาจต้องสังเวยจากวาทกรรม ไม่เอาพรรคลุง ...*...
ที่มา:ศรพระราม (25/7/66)
