วันที่ 22 ก.ค.2566 เมื่อเวลา 16.40 น. ที่พรรคเพื่อไทย(พท.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายเทวัญน์ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนกล้า และ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี แกนนำพรรคชาติพัฒนากล้า แถลงร่วมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ภายหลังเข้าหารือเกี่ยวกับทางออกในการจัดตั้งรัฐบาล ของพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ตอบรับคำเชิญของพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศกรณียังไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ พรรคเพื่อไทย ได้รับภารกิจจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในการจัดตั้งรัฐบาล นำแนวทางจาก 8 พรรคร่วมมาแสวงหาเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลให้ประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ ซึ่งผลจากการคุยกับพรรคชาติพัฒนากล้า เราก็จะนำเข้าที่ประชุมไปหารือกับ8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
เมื่อถามว่าการแถลงข่าววันนี้พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ควรจะต้องพิจารณาตัวเองจาก 8 พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องอยู่ที่พรรคก้าวไกล ไม่เกี่ยวกับการแถลงข่าววันนี้
ด้านนายสุวัจน์ กล่าวว่า ก่อนการหารือกับพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชาติพัฒนากล้า ชุดรักษาการ ได้ประชุมและมีมติพรรคในจุดยืนเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคยินดีให้การสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลให้ลุล่วง และไม่ให้เกิดสุญญากาศในการบริหารบ้านเมือง เพราะมีวิกฤตเศรษฐกิจที่ประชาชนรอการแก้ไข
ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เรายังมีจุดยืนที่ประกาศกับประชาชนไว้ก่อนการเลือกตั้ง 4 เรื่อง ที่จะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการร่วมรัฐบาล 1.สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อยเพื่อสร้างเสถียรภาพการเมืองและบริหารประเทศลุล่วง 2.สนับสนุนพรรคอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลเมือง แต่เมื่อจัดตั้งไม่ได้ก็ให้พรรคอันดับ 2 ข้อ3.แก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจสินค้าราคาแพง 4. จุดยืนเรื่องมาตรา112 ต้องคงไว้ ไม่มีการแก้ไข หรือยกเลิก ขอย้ำว่าพรรคชาติพัฒนกล้า จุดยืนทางการเมืองที่คำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน เพื่อสร้างบรรทัดฐานการเมืองไทยว่า พูดอะไรไปก็ต้องทำสิ่งนั้น
“ในจุดยืนของเราทั้ง 4 ข้อ เราเชื่อมั่นภายใต้การนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ3ข้อแรก ไม่มีปัญหา แต่ในข้อที่4ประเด็นการแก้ไขมมาตรา112 ที่เป็นแนวทางของพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ตรงกับแนวทางของพรรคชาติพัฒนากล้า เราพร้อมเข้าร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยจัดตั้ง และสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา แต่หากพรรคก้าวไกล หรือการแก้ไขมาตรา112 ยังคงอยู่ พรรคชาติพัฒนากล้าก็ไม่สามารถไปร่วมรัฐบาลภายใต้การจัดตั้งของพรรคเพื่อไทยได้ เพราะไม่เป็นไปตามมติพรรคที่ได้ประกาศกับประชาชน” นายสุวัจน์ กล่าว