# ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 7 ต่อ 2 เสียงให้รับร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น รวมทั้งคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.นี้
# ระหว่างการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กล่าวในที่ประชุมภายหลังมีหนังสือจากศาลรัฐธรรมนูญถึงประธานรัฐสภา มีคำสั่งยุติการปฎิบัติหน้าที่สส.ว่า "ตอนนี้ มีเอกสารจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คงจะขออนุญาตพูด กับประธานสภาว่า รับทราบคำสั่ง จะปฏิบัติตามอย่างที่เป็นคำสั่ง จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเป็นอื่น
ขอใช้โอกาสนี้ อำลาท่านประธาน จนกว่าเราจะพบกันใหม่ และขอฝาก เพื่อนสมาชิกในการใช้รัฐสภา ดูแลพี่น้องประชาชน เชื่อว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. และถ้าประชาชนชนะมาได้แล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทาง ถึงแม้ว่าตนจะยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ขอให้เพื่อนสมาชิกทุกคนช่วยกันดูแลประชาชนต่อไป”
# การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาในประเด็นเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้รัฐสภาเห็นชอบเป็นนายกฯ อีกครั้งจะทำได้ หรือขัดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 41 หรือไม่
ที่ประชุมได้ใช้เวลาถกเถียงและอภิปรายยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ ขอให้ที่ประชุมลงมติ ปรากฎว่า เสียงข้างมาก 395 ต่อ 312 เสียง งดออกเสียง 8 เสียงไม่ลงคะแนน 1 เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้พิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ และการลงมติของสมาชิกทั้งหมดถือว่าเกินกึ่งหนึ่งคือ 374 จึงทำให้ไม่สามารถเสนอนายพิธา เป็นนายกฯอีกได้
# นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังรัฐสภามีมติไม่ให้เสนอชื่อโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลชิงนายกฯซ้ำ ถึงกรณีถึงคิวพรรคอันดับ 2 จัดตั้งรัฐบาลแล้วหรือไม่ว่า ต้องไปถาม 8 พรรคร่วมก่อน ซึ่งเราก็ทำตามมติของพรรคภูมิใจไทย