วันที่ 19 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้ใช้เวลาถกเถียงกันนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่าการเสนอญัตติข้อหารือว่าการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกครั้ง ทำได้ตามข้อบังคับข้อประชุมรัฐสภา ข้อ41 หรือไม่ ซึ่งนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกเสนอญัตติพร้อมเสนออภิปรายว่าไม่สามารถทำได้ เพราะชื่อของนายพิธา ที่เสนอครั้งแรกนั้นไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา แล้วเมื่อ 13 กรกฏาคม 

ทั้งนี้เมื่อเวลา 11.55 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ฐานะประธานในที่ประชุม ได้วินิจฉัย หลังจากที่รับฟงข้อโต้แย้งจากสมาชิกพรรคการเมือง ว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 150 และข้อ 151 ที่สมาชิกรัฐสภามีสิทธิเสนอและต้องมมีคนรับรองไม่น้อยกว่าา40 คน และต้องใช้การลงมติด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสองสภาฯ 

อย่างไรก็ดีเมื่อประธานรัฐสภาวินิจฉัยแล้วยังไม่สามารถเข้าสู่สาระได้ เพราะมีความเห็นแย้งในคำวินิจฉัยของนายวันมูหะมัดนอร์ จนกระทั้งวเวลา 12.05 น. นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ลุกขึ้นอภิปรายว่า ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พยายามจะลุกขึ้นประท้วง ว่าไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความเสียหาย  แต่ประธานไม่ให้ประท้วง นายกิตติศักดิ์ กล่าวสวนว่า อย่าใจร้อน ตนมีสิทธิ์อภิปราย

จนเกิดการประท้วงกันวุ่นวาย ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ตนเพิ่งสลับขึ้นมาทำหน้าที่ ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงโมโห ว่าจะถกเถียงกันอีกกี่ครั้ง ตนเพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ พร้อมขอให้นั่งลง ทำให้นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า ขอให้ท่านประธานอนุญาตให้นายวิโรจน์ได้ชี้แจง  ประธานจึงอนุญาต นายวิโรจน์ กล่าวด้วยท่าทางโมโหตะโกนว่า ขอให้รอเอกสารเป็นทางการมาก่อน  ไม่ต้องกระเหี้ยนกระหือรือขนาดนั้น  ไปจัดการเรื่องที่จังหวัดพิจิตรให้เรียบร้อยแล้ว เพราะตอนนี้ก็เข้าวัดก็เข้าไม่ได้แล้ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านั้น นายพิธา ได้เดินทางออกจากห้องประชุม ทางประตูหลังห้องประชุม โดยได้โบกมือและชูบัตรประจำตัว ส.ส. ไปยังด้านหน้าห้องประชุมด้วย