วันที่ 18 ก.ค.2566 เวลา 12.00 น.ที่รัฐสภากลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม นำโดย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ พร้อมตัวแทนกลุ่ม ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ โดยมีนายเสรี สุวรรณภานนท์ นายสมชาย แสวงการ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ นายถวิล เปลี่ยนศรี พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ เป็นตัวแทนส.ว.รับหนังสือ
โดย นพ.ตุลย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมร่วมรัฐสภามีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งส.ว.ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ได้ปฎิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญด้วยความกล้าหาญ ด้วยการลงมติไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง จำนวนมาก ทำให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ได้รับความเห็นชอบให้เป็นนายกฯ ด้วยเหตุผลหลักที่เห็นเป็นที่ประจักษ์อย่างต่อเนื่อง ว่านายพิธา และพรรคก้าวไกล จะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 อย่างไรก็ตาม ทั้งก่อนและหลังการโหวตเลือกนายกฯ ส.ว. ถูกกดดันอย่างหนักจากผู้สนับสนุนนายพิธา ยิ่งหลังจากวันโหวตเลือก กองเชียร์ยิ่งด่าทอรุนแรงใช้ถ้อยคำหยาบคาย ลามไปจนถึงครอบครัวตลอดจนธุรกิจของส.ว. และในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ที่ประชุมร่วมรัฐสภา จะมีการโหวตเลือกนายกฯอีกครั้ง โดยทราบว่ามีความพยายามจะเสนอชื่อนายพิธาอีก หรือแม้แต่เสนอชื่อตัวแทนคนอื่นเป็นนายกฯ โดยมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ดังนั้น พวกเราจึงมาแสดงความชื่นชม และให้กำลังใจส.ว.ทุกท่าน ที่ได้ทำหน้าที่เพื่อชาติ ปกป้องสถาบัน พวกเราขอสนับสนุนให้ท่านทำหน้าที่อันสำคัญนี้จนถึงที่สุด
นพ.ตุลย์ ยังกล่าวถึงผู้สนับสนุนนายพิธา และพรรคก้าวไกล ด้วยว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และด้อมส้ม ทำอยู่ทุกวันนี้ สำนวนโบราณเรียกว่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า ด้วยความอหังการว่าตัวเองได้รับเสียงเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง 14 ล้านเสียง แต่แคนดิเดตนายกฯ เพียงหนึ่งเดียวไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาให้เป็นนายกฯ ด้วยเหตุผลหลักคือความดึงดันที่จะแก้มาตรา 112 คนของพรรคก้าวไกล และกองเชียร์ จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งด่าทอส.ว. และคนอื่นๆที่เห็นต่าง ลามปามไปถึงลูกหลาน ธุรกิจของส.ว. ความคลุ้มคลั่งนี้ร่ำๆจะนำไปสู่การชุมนุม ตามแผนการของผู้อยู่เบื้องหลัง คือกลุ่มคณะก้าวหน้า ผ่านการปลุกระดมทางโซเชี่ยล และแกนนำนักเคลื่อนไหวบางคน จึงขอเรียกร้องไปยังกองเชียร์ด้อมส้มทั้งหลาย ให้รับฟังเสียงของคนอื่นด้วย ไม่ใช่เอาแต่ความต้องการของตัวเอง และแม้พรรคก้าวไกลจะได้รับเสียงเลือกตั้งมากที่สุด แต่ไม่ใช่เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แม้จะได้สิทธิเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็ต้องไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น จึงควรรับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองอื่นด้วย ที่สำคัญยังมีคนไทยอีกจำนวนมาก ทั้งใน และต่างประเทศที่ยังเคารพรักต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หากกองเชียร์ทั้งหลายยังดื้อดึงด่าทอคนเห็นต่างด้วยถ้อยคำหยาบคาย ผู้ถูกกระทำก็อาจใช้สิทธิ์ต่อต้าน และต่อสู้ด้วยแนวทางที่เห็นสมควรเช่นกัน
ขณะที่ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศปปส. กล่าวว่า ขอให้กำลังใจส.ว. ยกเว้น ส.ว. 13 คน ที่โหวตให้กับผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน ถือว่าท่านปฏิบัติตนไม่สมดั่งที่ได้ปฏิญาณตนไว้ ทำให้เสื่อมทั้งเกียรติ และศักดิ์ศรีของสมาชิกวุฒิสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากยื่นหนังสือและอ่านแถลงการณ์แล้ว เครือข่ายต่างๆได้มอบช่อดอกไม้ให้กับส.ว.เพื่อเป็นกำลังให้ด้วย รวมถึงฝากช่อดอกไม้บางส่วนไปถึงส.ส.ที่ทำหน้าที่ปกป้องสถาบัน จากนั้น ทางคณะได้มีการร้องเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกัน
ด้าน นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า ส.ว.หลายท่านฝากขอบคุณ วันนี้รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น แม้จะเผชิญการถูกคุกคามอย่างมาก แต่เราจะทำหน้าที่ดูแลปกป้องประเทศชาติ โดยเฉพาะชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เชื่อส.ว.ทุกท่านจะทำหน้าที่ด้วยความกล้าหาญต่อไป
ขณะที่ นายเสรี กล่าวว่า ดอกไม่เป็นสัญลักษณ์ของความดีงาม จึงเป็นกำลังใจที่ท่านมอบให้เรา แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนว่าความคิดเห็นของพวกท่านเป็นภาพสะท้อน ว่าสังคมไม่ได้มีแนวคิด แนวทาง ที่จะสร้างความกระทบต่อสถาบัน แต่แสดงให้เห็นถึงคนจำนวนมากที่ต้องการปกป้องสถาบัน ส.ว.ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และช่วงใกล่หมดวาระ เราก็จะทำหน้าที่เต็มที่ เพื่อประโยชน์ประเทศ ประชาชน และความมั่นคงของชาติ วันนี้ถือเป็นการมอบขวัญกำลังใจให้ทำหน้าที่ด้วยความเชื่อมั่นต่อไป เราจะทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจอันดี ยึดมั่นให้สังคมดีขึ้น แม้ว่าจะโดนข่มขู่คุกคามก็ตาม