“สามารถ” ฟาด “ชัยธวัช” อย่าพาดพิง “บิ๊กป้อม” ย้ำส.ว.มีวุฒิภาวะกลั่นกรองคุณสมบัตินายกฯ ต้องไม่สร้างความแตกแยก

 

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้พูดผ่านรายการ สามารถ 5 นาทีใจความว่า

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ วันนี้ผมสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ก็จะมาสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟสบุ๊คสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss  ใครที่ยังไม่กดไลท์ กดติดตาม หรือกดเห็นโพสก่อนอย่าลืมกดกันนะครับ จะได้สื่อสารซึ่งกันและกัน ต้องขอบคุณพี่สื่อมวลชนที่เอาคลิปสามารถ 5 นาที ไปออกรายการหลายครั้งนะครับ วันนี้เป็นประเด็นที่พ่อแม่พี่น้องส่งข้อมูลมาให้ผม เรื่องของคุณชัยธวัช ตุลาธน ออกมาพูดพาดพิง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าการที่พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นจะเป็นนายกรัฐมนตรีโดยมีส.ว.ยกมือให้นั้น ส.ว.จะตอบสังคมได้อย่างไร แล้วพลเอก ประวิตร จะได้รับการนิยม หรือ ได้รับการรับรองจากสมาชิกวุฒิสภาได้อย่างไร

ผมบอกว่าคุณชัยธวัช ตุลาธน นั้นมีปัญหาด้านความคิดครับ ในชุดความคิดของคุณชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะที่เป็นถึงเลขาธิการพรรคก้าวไกลนั้น ผมต้องอธิบายให้เค้าเข้าใจว่าอย่างนี้ครับว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ มีคุณสมบัติครบถ้วนนะครับ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นแคนดิเดตนายกพรรคพลังประชารัฐ มีเสียงเกิน25 เสียงเพียงพอที่จะเสนอ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงหนึ่งเดียวของพรรคพลังประชารัฐได้

แต่การที่จะได้รับการรับรองจากสมาชิกวุฒิสภาหรือไม่นั้น ผมมองว่าสมาชิกวุฒิสภาแต่ละคน เป็นคนที่มีวุฒิภาวะสมาชิกวุฒิสภาทำหน้าที่กลั่นกรองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรีครับ ไม่สามารถเสนอใครได้ครับได้เพียงแต่กลั่นกรองคนที่เขาเอามาพิจารณาเท่านั้น

การที่สมาชิกวุฒิสภานั้น จะพิจารณาอะไรเขาก็ต้องดูจากคุณสมบัติ อย่างเเรกคือเรื่องของความจงรักภักดี ผมมั่นใจครับว่า สมาชิกวุฒิสภามีความเชื่อมั่นในตัวพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ว่าท่านเป็นคนที่มีความจงรักภักดีเป็นที่ประจักษ์ ไม่มีใครเคลือบแคลงสงสัยในตัว พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างแน่นอนครับ แล้วการที่จะให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น มั่นใจได้เลยครับว่า ท่านจะคงรักษาไว้ซึ่งระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

ซึ่งมันแตกต่างจาก คุณพิธาจากแคนดิเดตของพรรคก้าวไกล ที่เริ่มเปิดมาก็เริ่มแก้มาตรา112แล้ว จะเอาให้คนด่าพระเจ้าอยู่หัวได้ ด่าพระมหากษัตริย์ได้ ลดโทษเหลือแค่จำคุกไม่เกิน1ปี นั่นหมายความว่าสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นสั่นคลอนแน่นอนครับ แล้วเปลี่ยนจากผู้ร้องจากที่ใครจะไปร้องก็ได้ กลายเป็นสถาบันต้องลงมาฟ้องเองคือสำนักพระราชวัง กลายเป็นยกสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาทะเลาะกับประชาชน

ซึ่งผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้องครับ นี่คือชุดความคิดที่อันตรายมากๆ ที่สมาชิกวุฒิสภาเขาถึงไม่กล้าให้พรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ เพราะมันน่าจะขัดรัฐธรรมนูญ สิ่งที่ผมต้องบอก คุณชัยธวัช ตุลาธน อีกครับว่าการจะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกว่า ใครได้เสียงอันดับ1 แล้วจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีนะครับ  รัฐธรรมนูญเองก็ไม่ได้บอกว่าใครรวบรวมเสียงของสภาได้จัดรัฐบาลก็เป็นนายกรัฐมนตรี

 หมายความว่ารัฐธรรมนูญก็ไม่ได้บอกอีกครับว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะเป็นไม่ได้ แต่รัฐบาลเสียงข้างน้อย จะทำงานบริหารราชการแผ่นดินลำบาก  เนื่องจากกฎหมาย เนื่องจากงบประมาณ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรัฐบาลที่เป็นเสียงข้างน้อย มันจะตายไปด้วยตัวมันเองครับ

ฉะนั้นผมมั่นใจครับว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณเองท่านก็ไม่ได้อยากเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ถ้าท่านอยากจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยคงเสนอตัวแข่งกับคุณพิธาไปแล้ว แต่นี่พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านนิ่งครับ แล้วท่านก็ให้กลไกของสภาเสนอกันไปเองครับ ซึ่งผมมั่นใจครับสมาชิกวุฒิสภานั้น จะมีวุฒิภาวะในการกลั่นกรองว่า จะเอาคนเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นจะต้องเลือกคนแบบไหน อย่างไร

ผมจึงอยากจะเตือนสติ คุณชัยธวัช ตุลาธน ว่าพรรคการเมืองที่ได้คะแนนอันดับ1 ไม่จำเป็นต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเสมอไปครับ ยกตัวอย่างในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2539 มีการเลือกตั้งครับ พรรคประชาธิปัตย์ได้ 18ล้าน  เสียงพรรคความหวังใหม่ได้ 16ล้านเสียง แต่กลับได้ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านชวน หลีกภัย ตอนนั้นเป็นฝ่ายค้านนะครับ ทั้งๆที่ตอนนั้นมีคนเลือก 18ล้านเสียง เป็นอย่างไรครับ เสียงที่ได้อันดับ1 ไม่ได้เป็นนายกเสมอไปนะครับ

ตอนนั้นพลเอก ชวลิต เจอวิกฤตต้มยำกุ้งแล้วลาออก  ท่านชวนจึงมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนั้นประธานสภาก็คือ นายวัน มูฮัมหมัด นอร์มะทา ซึ่งเป็นคนของพรรคความหวังใหม่ นั่นคือสิ่งที่ผม อยากจะบอกคุณชัยธวัช ตุลาธน ว่าก่อนจะมาว่าอะไรศึกษาประวัติศาสตร์ก่อน ดูไทมไลน์ให้มันชัดเจน ไม่ใช่จับแพะชนแกะปะติดปะต่อ และกล่าวหาคนอื่นแบบนี้ครับ ขอบคุณครับ