งานเข้าอีก! 151 ส.ส.ก้าวไกลเสี่ยงถูกสั่งพักปฏิบัติหน้าที่ หลังศาลรัฐธรรมนูญจ่อรับวินิจฉัยคำร้องกรณีถูกกล่าวหาล้มล้างการปกครอง ปมใช้การแก้ไขมาตรา 112 เป็นนโยบายในการหาเสียง
ตามที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ โดยนายธีรยุทธได้ระบุในคำร้องดังกล่าวที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยว่าก่อนหน้านี้ได้เคยยื่นคำร้องขอ ฉบับลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เพื่อขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองแล้ว แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสาม และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้สอบถามอัยการสูงสุดว่า มีคำสั่งรับหรือไม่รับดำเนินการตามคำร้องของนายธีรยุทธนั้น
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่าอัยการสูงสุดได้ทำหนังสือแจ้งกลับมาศาลรัฐธรรมนูญว่ากำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคำร้องของนายธีรยุทธ อย่างไรก็ตามทางอัยการสูงสุดไม่มีข้อขัดข้องใด หากศาลรัฐธรรมนูญจะรับวินิจฉัยคำร้องของนายธีรยุทธเอง
ทั้งนี้จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ในการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ จะมีมติรับคำร้องของนายธีรยุทธไว้วินิจฉัย
สำหรับแนวทางปฏิบัติของศาลรัฐธรรมนูญภายรับคำร้องดังกล่าวนั้น ในเบื้องต้นมีด้วยกัน 3 ประการ ประกอบด้วย 1) สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของส.ส.ก้าวไกลทั้ง 151 คน 2) สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และ3) จะยังไม่มีคำสั่งใดๆ ออกมาทั้งสิ้น
“ที่ผ่านมายังไม่เคยมีคำร้องลักษณะนี้เข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญ จึงเข้าใจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะมีแนวทางการดำเนินการต่ออย่างไรหลังรับคำร้อง เพราะอาจจะทำให้แลดูสุดโต่งเกินไป หากมีการสั่งพักปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ก้าวไกลรวดเดียวทั้ง 151 คน จนอาจมีการหยิบยกไปใช้เป็นประเด็นในการชุมนุมประท้วงก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง”แหล่งข่าวระบุ