“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเหนิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”...*...
“เชื่อว่ามี ส.ว.ไม่ถึง 10 คน ที่จะยกมือโหวต พิธา เป็นนายกฯ ” เป็นข้อมูลจากปากคำ ส.ว.ตัวตึง ที่โดดขวาง “ความคิดอันตราย” ของพรรคก้าวไกล ไม่ให้ไปถึงตีนบันไดตึกไทยคู่ฟ้า …*…
ศรพระราม ตั้งคำถามกลับ ส.ว.ที่ขึงกำแพงกั้น “พิธา” ไม่กังวลหรือว่า หาก “พิธา” ไม่ได้เป็นนายกฯ ในรอบนี้ อีก 4 ปีข้างหน้า พวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าเดิม หรือถึงขั้นแลนด์สไลด์ ฝ่าย ส.ว.แนวต้าน “พิธา” เชื่อมั่น อีก 4 ปี ย่อมจะมี “คลื่นลูกใหม่ มาไล่ลูกเก่า” นั่นหมายความว่า พวกเขาเชื่อมั่นว่า จะมีพรรคการเมืองที่มาแทนที่พรรคก้าวไกล …*…
แต่หากอ่านจากพรรคก้าวไกล น่าจะตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า จะไม่ลดเพดานการแก้ไขมาตรา 112 เพราะมวลชนขู่ฟ่อค้ำคออยู่ทุกวัน ว่าหากทิ้งเงื่อนไขมาตรา 112 จะตีจาก จึงต้องดั้นเมฆไปข้างหน้า เคลื่อนทัพออกเดินสายขอบคุณประชาชน ให้ภาพบรรดาด้อมส้มอธิบายแทน …*…
แต่กระนั้น ก็ต้องเข้าใจว่า ไม่ว่าจะฝ่าด่าน ส.ว.ไปได้หรือไม่ ยังไม่อันตรายเท่าถูกสอย แม้จะเป็นเรื่องของ “ปลาตายน้ำตื้น” ที่ “พิธา” ขุดหลุมดักตัวเองก็ตาม แต่ ศรพระราม กลับไม่เห็นด้วย ที่จะ “หักด้ามพร้าด้วยเข่า” ที่สำคัญ “บ้านเมืองไม่ใช่ของเราคนเดียว” อย่าผูกขาด …*…
อีกทั้ง การปล่อยให้เข้ามาบริหารประเทศ อาจเป็นวิธีเดียว ที่จะลดคะแนนนิยมของพรรคก้าวไกก็เป็นได้ เพราะเท่าที่บรรดาเสนาบดี ที่เปิดตัวมาแล้วยังไม่ใช่ “ดีหนึ่งประเภทหนึ่ง” ที่สำคัญต้องมาเจอกับพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุด คือ “พรรคข้าราชการ” ที่เขี้ยวลากดิน ชื่อชั้นบารมีไม่ถึง จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน โอกาสบริหารผิดพลาดก็มีสูง ในทางกลับกัน ถ้าทำดี ก็ให้ทำต่อไป …*…
วกมาเรื่องวุ่นๆ ในพรรคเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่สู้กันดุเดือด ถึงขั้นประชุมโหวตเลือกหัวหน้าพรรคอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมาต้องล่ม เพราะเล่นเกม “วอล์กเอาท์” กันแบบไม่ไว้หน้า …*…
แต่ที่น่าสนใจก็คือ เหตุไฉนจึงมีแต่ตัวหลอก ออกมาเปิดตัวชิงหัวหน้าพรรค ในขณะที่การขยับแก้ไขข้อบังคับพรรคเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ ก็ถูกสกัด ขัดขาจนไปไม่ได้ ทำให้ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก …*…
ปัญหาขัดแย้งภายใน ที่ตีกันยุ่งอีนุงตุงนังนี้ น่าสนใจ อาจเป็นตัวแปร ให้บางกลุ่มบางขั้ว อย่าง ก๊วน “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน ต้องยกยวงทิ้งพรรคหรือไม่ ต้องจับตาดู …*…
ส่วน “หนูอ้น” ทิพานัน ศิริชนะ ช่วยอธิบายให้คนเข้าใจ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินให้ ป.ป.ช.แล้ว โดยเธอบอกว่ามาตรฐานทั่วไปในการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายกฯ กฎหมายกำหนดให้ยื่น 2 ครั้ง คือ เข้า 1.เข้าดำรงตำแหน่ง และ2.พ้นจากตำแหน่ง เท่านั้นแต่ ลุงตู่ ยื่นมาแล้ว 2 ครั้ง และ จะยื่นอีก1ครั้ง = ยื่น 3 ครั้ง มาตรฐานสูงกว่า กม.กำหนด …*…
“1.ดำรงตำแหน่ง ปี 57 (ปปช. เผยแพร่แล้ว) 2.ดำรงตำแหน่งเดิมต่อเนื่อง (ยื่นไว้เมื่อปี 62) ทั้งที่กม.บอกไม่ต้องยื่น ซึ่งเลขา ปปช. ชี้แจงเมื่อ 14 พ.ย. 65 ว่า นายกฯ ก็ยื่นมาทุกบัญชีอยู่แล้ว ซึ่งยื่นเกินมาด้วยซ้ำไป”…*…
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีอุปสมบท ภานรินทร์ อินสกุล บุตรชาย ประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สมลักษณ์ ตัญญะวังรัตน์ บิดา – มารดา ที่วัดพยัคฆาราม ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เสาร์ที่ 15 ก.ค. ...*...
ที่มา:ศรพระราม (11/7/66)