หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานเพื่อรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...
ลุ้นระทึกหายใจ หายคอกันแทบไม่ทั่วท้อง ! เพราะเวลาอีกเพียง 3 วันที่ประชุมรัฐสภา สมาชิกทั้ง “750คน” จะชี้ชะตา “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ จะไปได้ถึงเป้าหมายใหญ่หรือไม่ เสียงที่ “พิธา” มีเอาไว้ในมือ จาก “8 พรรคร่วมรัฐบาล” คือ “312เสียง” ต้องการอีกเพียง “64 เสียง” จาก “วุฒิสมาชิก” เพื่อดันตัวเลขไปให้ถึง “376เสียง” จะสามารถส่ง “พิธา” เข้า “ทำเนียบรัฐบาล” ได้อย่างฉลุย ...*...
ในทางกลับกัน หากตัวเลขที่ต้องการ ไม่สามารถดันไปได้ถึง “376เสียง” โดยเฉพาะ “พรรคก้าวไกล” ไม่สามารถ “โน้มน้าวใจ” จาก “ส.ว.” ในกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ให้เทคะแนน ร่วมกับ ส.ว.ที่ประกาศตัวชัดเจนแล้วว่าจะโหวตให้ “พิธา” แน่นอนว่า “ความผิดหวัง” ที่เกิดขึ้นจาก “14ล้านเสียง” ที่เลือก “พรรคก้าวไกล” เข้ามา คงไม่อยู่เฉย ...*...
โดยเฉพาะบรรดา “ม็อบแนวร่วม” สารพัดกลุ่มที่ “ตั้งท่า” ร่ำๆพร้อม “ลงถนน” หาก “พิธา” ไปไม่ถึง “ทำเนียบฯ” สถานการณ์ทางการเมืองวันนี้จึงเต็มไปด้วยความวิตกกันถ้วนหน้า ทั้งจากฝ่ายที่เลือกและไม่เลือก “พิธา-พรรคก้าวไกล” เพราะไม่มีใครประเมินได้ว่า “อารมณ์” ของผู้คนที่ผิดหวังจะกราดเกรี้ยวและมีน้ำหนักมากพอที่จะออกมาเคลื่อนไหวได้เหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ และแน่นอนว่า ทั้ง “พิธา-พรรคก้าวไกล” ก็ไม่ได้ “อยู่เฉยๆ” เพื่อรอให้ถึงวันโหวตโดยไม่เคลื่อนไหวเช่นกัน ...*...
ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องแปลกใจที่ “ภารกิจเดินสายขอบคุณ” ทุกคะแนนเสียง ของ “หัวหน้าพรรคก้าวไกล” ที่มีขึ้นทั้งตามจังหวัดต่างๆ เมื่อ 8 ก.ค. “พิธา” ยกคณะไปโคราช และนัดหมายประชาชนที่หน้า ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ วันอาทิตย์ที่ 9 ก.ค. 66 นัยว่า นี่คือการ “แสดงพลัง” ส่งสัญญาณทางการเมือง กันล่วงหน้าก่อนถึงวันโหวตนายกฯ 13 ก.ค.นี้ ทางหนึ่งคือรู้ชะตากรรมของตัวเอง และอีกทางหนึ่ง คือการใช้มวลชน “กดดัน” ไปยัง “ฝ่ายตรงข้าม” ...*...
แนวรบที่ฝั่ง “พรรคประชาธิปัตย์” ต้องยอมรับว่าดุเดือดไม่แพ้ใคร ! เพราะผลพวงจาก “ศึกเลือกตั้ง” รอบนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า “พรรคสีฟ้า” นั้นบอบช้ำอย่างหนัก จากที่เคยเป็น “พรรคใหญ่” แต่บัดนี้เหลือส.ส.ในมืออยู่เพียง “25ที่นั่ง” มิหนำซ้ำ ในจำนวน “25ส.ส.”นั้นยังแบ่งออกเป็นฝัก เป็นฝ่ายเข้าไปอีก การประชุมใหญ่พรรค เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ก.ค.66 ที่ผ่านมา ภายใต้บรรยากาศแห่งความคึกคัก ก็คุกรุ่นด้วย “ความขัดแย้ง” ที่มีมาแต่เก่าก่อน ...*...
ดังนั้นโจทย์ยาก จึงอยู่ที่ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็น “หัวหน้าพรรคคนใหม่” จึงต้อง “แบกรับ” ทั้งความคาดหวังของสมาชิกทั่วประเทศแล้ว “ผู้นำพรรค” ยังจะต้องลดรอยแห่งความบาดหมาง ระหว่างขั้วอำนาจในพรรค ให้ได้มากที่สุด เรียกว่า ก่อนรบกับคนอื่น ต้องรบกันเองให้จบเสียก่อน ! ...*...
ที่มา:พันแสง(10/07/66)