นาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน  เมื่อวันที่ 7 ก.ค.66 ตอน "คิดดีดี?" ระบุถึงเกมชิงไหวชิงพริบของกลุ่มอำนาจในการชิงโหวตนายกฯ 13 ก.ค.นี้ ซึ่งคนแดนไกลผุดพฤติกรรมกะล่อนอ้างไฟเขียวมาหักดิบข้อตกลงการเจรจาในตำแหน่งประธานสภามาแล้ว จึงทำให้นายสุชาติ ตันเจริญ พลาดโอกาสไปอย่างจำยอมกับตำแหน่งใหม่ที่นำมาล่อให้เคลิ้มฝันหวานอีก

นายจตุพร กล่าวว่า การเปลี่ยนตำแหน่งประธานสภาจากนายสุชาติ มาเป็นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ อย่างฉับพลันในช่วง 2 คืนสุดท้ายก่อนประชุมสภาโหวตนั้น ซึ่งคาดว่า มาจากข้อเสนอแลกเปลี่ยนตำแหน่งกันใหม่ จึงทำให้ราบรื่น ง่ายดาย ไม่มีการต่อต้านจากนายสุชาติ

สิ่งสำคัญ ได้เปิดเผยเชิงสมมุติถึงการเจรจาจัดวางตำแหน่งทางการเมืองว่า ถ้าต้องการแลกเปลี่ยนตำแหน่งกับบุคคลใด ต้องศึกษาความต้องการของคนนั้นๆ ด้วย เช่นสมมุติว่า คนเคยเป็นนรองประธานสภามาก่อน ก็เสนอตามความอยากให้เป็นประธานสภา และเมื่อผิดคำพูดแล้ว จึงเจรจากันใหม่ โดยพิจารณาว่า เขายังมีความอยากจะเป็นอะไรต่อ หากเคยเป็น รมช.มหาดไทย ก็จะเสนอให้เป็น รมว.มหาดไทย ดังนั้น การเสนอแลกเปลี่ยนตามความอยากจะราบรื่น และทำให้ฝันหวาน จึงไม่แตกต่างจากการหลอกต้มตามความอยากกันต่อไปอีก

"การต้มตามความอยากเช่นนี้ ทำให้เกิดความสวยงามในตำแหน่ง รมว.มหาดไทยยิ่งกว่ายึดมั่นประชาธิปไตยว่าเป็นสิ่งสวยงาม แต่อย่าเพิ่งเชื่อจนสุดใจ เพราะผมไม่อยากให้คำพูดผมไปสร้างความผิดหวังให้กับใคร ที่พูดผมเชื่อว่า เขา (ทักษิณ ชินวัตร) ไม่กล้าที่จะเปลี่ยน แต่ธรรมชาติของเขาเมื่อถึงจุดหักเห จิตใจจะไม่มั่นคงทุกครั้งคราว เหมือนกับการพูดกลับบ้านเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วยังเปลี่ยนใจรวม 20 ครั้ง"

นายจตุพร กล่าวว่า ตามแผนเดิมในการโหวตเลือกนายกฯ วันที่ 13 ก.ค.นี้ หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ผ่านเกณฑ์มติรัฐสภา 376 เสียงแล้ว จะเปิดโอกาสให้ลงมติเลือกอีกครั้งเพื่อดันไปให้สุดทาง 
“ดังนั้น เมื่อถึงปลายทางจุดสิ้นสงสัยแล้ว มีข่าวลือตามมาถึงการอ้าง “ไฟเขียว” ให้โหวตเลือกแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย โดยมีพรรคก้าวไกลยังอยู่ร่วมรัฐบาลได้ ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่มีการพิสูจน์ความเป็นจริงอย่างใด”


สิ่งสำคัญระบุว่า การเลือกนายกฯ วันที่ 13 ก.ค.จึงน่ากังวล โดยแผนเดิมของบางฝ่ายที่ตกลงกันไว้จะให้นายพิธา โหวตถึง 3 ครั้ง ตามที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่สองจากพรรคเพื่อไทย กล่าวอ้างไว้คือในวันที่ 13 และ 19 แล้วสิ้นสุด 20 ก.ค. เพื่อให้พิสูจน์เสียง 376 จนสิ้นสงสัย เมื่อไปไม่ได้ก็จะเลี้ยวแยกย้ายข้ามขั้วกันไป แต่การเมืองกลับถูกปั่น อ้างไฟเขียวมาชิงไหวชิงพริบสร้างความเชื่อจนป่วน ทำให้คนตัวสูงโย่งเกิดความโลภอยากเป็นนายกฯ เอง แต่แผนใหม่ก็ยังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่

 

 

 

ขอบคุณรายการ:ประเทศไทยต้องมาก่อน