“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเหนิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”...*...

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงเปิดนิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 12  และ พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผลงานศิลปกรรม ในหัวข้อ “รักโลก”  ในวันจันทร์ที่ 10  ก.ค. เวลา 17.30 น. ที่ ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ...*...

 “ศรพระราม”ขอแสดงความยินดีกับ “อาจารย์วันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา ที่ได้รับความไว้วางใจให้นั่งประธานสภาฯสมัยที่ 2  “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 และ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 2 ...*...

อย่างน้อยๆ “ศรพระราม” ก็ไม่โป๊ะ ที่งานนี้ “อาจารย์วันนอร์”เข้าวินตามที่เขียนชี้เป้าเอาไว้เมื่อฉบับวันอังคารที่ 4 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา  แต่งานนี้ เชื่อว่าที่ “อาจารย์วันนอร์”ยอมตกปากรับคำรับบท “ท้าวมาลีวราชว่าความ”  ได้ ไม่ใช่แค่เพื่อลดความขัดแย้ง ให้ว่าที่รัฐบาลได้ไปต่ออย่างเดียว แต่ก็เพราะเกรงใจคนแดนไกล ตามที่ “บารอน” คอลัมนิสต์ใหญ่ยกให้ “พี่โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร  เป็นเซียนการเมืองตัวจริง ส่งสัญญาณในเรื่องนี้...*...

งานนี้  คนที่ยอมกลืนเลือดไม่ใช่ แค่สุชาติ ตันเจริญ แต่ต้องไม่ลืม “หมอชลน่าน”นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ก็เจ็บไม่น้อยกว่าใคร ที่รับบทหนังหน้าไฟทุกอย่าง และจากปากคำของ ชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ ได้รับการคอนเฟิร์ม จากคนในพรรคเพื่อไทยว่า ที่ไม่หนุนให้ “หมอชลน่าน” เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะเตรียมตัวเป็นประธานสภาฯ แต่เมื่อพลาดหวังจากเก้าอี้นี้ ...*...

ที่นี่ ศรพระราม ขอยกมือเชียร์ให้ “หมอชลน่าน” นั่งเก้าอี้เสนาบดี ด้วยครบเครื่องทั้งบู๊ บุ๋น และศักดิ์ศรีหัวหน้าพรรค อย่างน้อยๆต้องเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ...*...

อย่างไรก็ดี ตอนนี้เที่ยวบินไทยไปฮ่องกง สุดคึกคัก ด้วยนักการเมืองค่ายเพื่อไทย ทั้ง ส.ส. สอบได้ และสอบตก ตบเท้ายกขบวนกันไปพบคนแดนไกล กันฝุ่นตลบ  แว่วว่า อดีต ส.ส.จอมแฉ ขอเก้าอี้ใหญ่กระทรวงพลังงานทีเดียว...*...

ส่วนผลพวงจากศึกชิงประธานสภาฯ ที่ทำให้พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ต้องทำข้อตกลงกันเอง 4 ข้อ เป็น “MOU” เฉพาะ 2 พรรค ที่เนื้อหาใจความของ  4 ตกลงนั้น มีความพยายามถอดรหัสจาก เซียนกฎหมาย พรรคพลังประชารัฐ อย่าง นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ  ที่ออกมาตั้งคำถามถึงข้อความสำคัญวรรคหนึ่งในข้อตกลง ที่ว่า “ร่วมกันให้ความเห็นชอบกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน ซึ่งรวมถึงการนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง” ...*...

“ปัญหา ที่จะเกิดขึ้น คือ คดีแสดงออกทางการเมือง คือ อะไร? สภาผู้แทนราษฎรชุดก่อนๆ เคยพิจารณาเรื่องคดีการเมืองมาแล้ว แต่หาข้อยุติไม่ได้ จนนำไปสู่ กม.นิรโทษกรรมสุดซอย และกลายเป็นจุดจบของรัฐบาล -หากพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล เห็นว่า คดีตาม ม.112 เป็นการแสดงออกทางการเมือง และคิดจะนิรโทษกรรม ผมว่า นั่นแหละ คือการเริ่มต้นจุดจบของรัฐบาล ในฐานะประชาชน ผมอยากให้พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย แสดงออกให้ชัดว่า คดีการเมืองที่จะร่วมมือกันนิรโทษกรรม คือ คดีอะไร เพื่อคนไทยจะได้ตัดสินใจได้ ว่า ควรสนับสนุนรัฐบาลหรือไม่ และที่สำคัญ เป็นสาระสำคัญที่สมาชิกรัฐสภาจะใช้ตัดสินใจว่าจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย #อย่าเดินไปในเส้นทางที่เคยมีผู้เดินไป แล้วไม่เคยได้เดินกลับออกมา” …*…

ที่มา:ศรพระราม (7/7/66)