นาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อวันที่ 5 ก.ค.66 ตอน"แผนใคร?" โดยเชื่อว่า การเปลี่ยนตัวตำแหน่งประธานสภาอย่างฉับพลันช่วงกลางดึกจากนายสุชาติ ตันเจริญ เป็นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นแผนที่โลเลของทักษิณ ชินวัตร เพราะเป็นคนใจไม่มั่นคง
แต่ขณะนี้ยังดำรงความมุ่งหมายอื่นอยู่ จึงขอประชาชนอย่าเพิ่งวางใจสถานการณ์ในเดือน ก.ค.นี้ นายจตุพร กล่าวว่า อีกอย่างที่ตนระบุชื่อนายสุชาติ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยที่ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐ มาในช่วงเลือกตั้งปี 2566 อย่างน่าคลางแคลงใจจะได้เป็นประธานสภานั้น เพราะรู้จักทักษิณ ชินวัตร ดีถึง 29 ปีจึงต้องตอกย้ำและกดชื่อนี้ไว้ซ้ำๆ เพื่อพิสูจน์ว่าจะกล้าสำแดงการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
อีกทั้งระบุว่า ทักษิณ ไม่มีความมั่นคงทางใจ เป็นคนเปลี่ยนได้ทุกอย่าง ยิ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ (ลูกชายนายสุชาติ ตันเจริญ) ไปหาพ่อกลางดึกเมื่อ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อทำให้พ่อเปลี่ยนใจ จึงแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงทางใจของทักษิณในตำแหน่งประธานสภา ซึ่งอาจจะมีตำแหน่งรัฐมนตรีมาแลกเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงด้วยใจที่โลเลอีกตามเคย
นอกจากนี้นายจตุพร กล่าวว่า การยื้อเวลาแตกแยกและสกัดมวลชนลงถนน ก็เป็นปัจจัยที่จำเป็นอย่างหนึ่งที่ตำแหน่งประธานสภาต้องมาเป็นของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แต่ไม่ได้บ่งชี้ว่า เป็นชัยชนะที่จะนำไปสู่นายพิธา ได้ชนะโหวตเป็นนายกฯ ซึ่งต้องรอพิสูจน์ว่า จะได้แค่ 312 เสียงหรือไม่ รวมทั้งเห็นว่า ในสถานการณ์ทางการเมืองนั้น พรรคเพื่อไทยต้องการพาเดินไปส่งนายพิธา จนถึงจุดสิ้นสงสัยให้ได้ ว่า ไม่มีเสียง ส.ว.มาช่วยให้ผ่านด่าน 376 เสียงจริงๆ จากนั้นจะถึงแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยทั้งสองคนจะได้พิสูจน์ตัวเองเช่นเดียวกับนายพิธา
“ด้วยรูปการณ์เช่นนี้ จึงเป็นการแต่งตัวอีกแบบหนึ่งของพรรคเพื่อไทยที่จะเปลี่ยนข้างสลับขั้วไปดึงบางพรรคจากฝ่าย 188 เสียงมาร่วมตั้งรัฐบาลและมี พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ ตามความมุ่งมั่นที่ยังดำรงอยู่ในขณะนี้”
ขอบคุณ:รายการประเทศไทยต้องมาก่อน