นายสามารถ  เจนชัยจิตรวนิช  อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม    ยืนยันว่า   แม้ว่าจะมีข่าว ความพยายามจัดตั้งรัฐบาลของเสียงข้างน้อย    แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน    เนื่องจากสถานการณ์การเมืองขณะนี้แบ่งออกเป็นสามก๊กเหมือนที่เคยบอกตลอด   คือ  ก๊กของพรรคก้าวไกล   151 เสียง   ก๊กของพรรคเพื่อไทย   141   เสียง  และสุดท้ายคือพรรคของรัฐบาลเก่า  อีก  188   เสียง ตามกติกาต้องเปิดโอกาสให้ พรรคก้าวไกล  ได้จัดตั้งรัฐบาลไปก่อน   แม้ว่า ก๊กหลังของรัฐบาลเดิมจะรวมกันได้มากกว่า 2 ก๊กแรกก็ตาม   ฉนั้นอย่าทำให้ประชาชนสับสน   เพราะการจะเป็นรัฐบาลได้  เสียงในสภาฯจะต้องเกิน 250  เสียง เป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะมาจัดตั้งรัฐบาล  

“ไม่มีหรอกครับ   ต้องเข้าใจก่อนว่า พรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล จะจับมือกันได้จริงไหม    ผมบอกแล้วว่า คุณพิธา จับมือเลี้ยงข้าว  ไม่ได้จับมือตั้งรัฐบาล   เพราะเสียงของคุณพิธา ไม่เกิน 376  วันนี้ต้องหา ส.ว.66  เสียง  หายังไง  แล้วจะมาดิสเครดิต ว่ารัฐบาลนี้สืบทอดอำนาจ  ไม่ใช่ครับ  ก่อนหน้านี้ สมัย พลเอก  เปรม  เป็นรัฐมนตรีกลาโหม   ให้ ส.ว. เลือกนายกฯ   และให้ ส.ว.อภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย    แต่ ส.ว.รัฐบาลชุดนี้ ทำหน้าที่ได้แค่กลั่นกรอง ไม่มีสิทธิ เสนอ “

นายสามารถ    ยังมองด้วยว่าเป็นไปไม่ได้ที่พรรคก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ     เพราะจนถึงขณะที่ พรรคก้าวไกลยังไม่ลงตัวกับพรรคเพื่อไทย  โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภาฯ  ที่พรรคก้าวไกล เสนอ นายณัฐวุฒิ  บัวประทุม    อีกทั้งการนัดประชุม 8  พรรคก็ยังเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด  เนื่องจาก นายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์   หัวหน้าพรรคก้าวไกล   และ น.ส.แพรทองธาร  ชินวัตร   ติดโควิด  ขณะที่สภาฯกำลังจะเปิดเพื่อเลือกประธานฯ   ไม่เกินวันที่  3 ก.ค. นี้  

“ผมบอกเลย คุณณัฐวุฒิ  ไม่มีโอกาสได้เป็น   มีความสามารถ  แต่บุญไม่ถึง  วันนี้ เปิดชื่อมา พรรคเพื่อไทย ไม่เอา     การให้สัมภาษณ์ของสมาชิกพรรคเพื่อไทย อย่าง  คุณอดิศร  เพียงเกษ  และ  และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง   แสดงให้เห็นว่าเค้าจับมือกันไม่ได้อยู่แล้ว  หวยจะไปออกที่  นายสุชาติ  ตันเจริญ หรือไม่   และถ้าก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เสนอไม่ได้  ก็ต้องเป็นกลไกลของสภาว่าจะเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรี ตามแผน ที่ผมเคยบอกไว้คือแผน ลักขื่อเปลี่ยนเสา ”  นายสามารถ กล่าวทิ้งท้าย