วันที่ 22 มิ.ย. 66 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นเรื่องใหม่ต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบการถือหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) และการโอนหุ้นหลังการเลือกตั้ง ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เพื่อให้กกต.ตรวจสอบ ซึ่งมีองค์ประกอบครบในการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยเป็นการยื่นเรื่องใหม่อีกครั้งหลังกกต.รับรองเป็น ส.ส. โดยจะให้กกต.ดำเนินการภายในวันที่ 28 มิ.ย. นี้ ในการพิจารณาและส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากยังไม่ดำเนินการจะไปใช้ช่องทางให้ส.ว. และส.ส. เพื่อเข้าชื่อ
นายนพรุจ กล่าวว่า องค์ประกอบไม่มีอะไรมาก โดยเฉพาะการถือหุ้น 4.2 หมื่นหุ้นอยู่แล้ว 1 ใน 3 คือถือแน่นอน การบอกว่าหุ้นน้อย หุ้นมากก็ต้องไปถามคนอื่นที่ถือหุ้น 1 หุ้น ก็โดน อีกทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ออกมายืนยันแล้วว่า ยังไม่เลิกกิจการ ยังดำเนินธุรกิจอยู่ มีการส่งงบการเงิน ส่วนที่จอดำ เนื่องจากเป็นข้อพิพาทระหว่างสำนักปลัดนายกรัฐมนตรีและบริษัทไอทีวี ซึ่งไม่ใช้การฟื้นไอทีวี และนายพิธาต้องถือหุ้น ถึงโอหุ้นได้ จึงขอให้นายพิธาเปิดเผยข้อมูลมา อย่าพูดแต่ปาก เพื่อให้สังคมรับรู้ว่าตนเองเป็นผู้จัดการมรดก เป็นกรตกลงภายใน หรือเป็นผู้จัดการโดยศาล ซึ่งตามกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 1732 กำหนดให้โอนหุ้นภายใน 1 ปี แต่ที่สำคัญนายพิธาโอนหลังการเลือกตั้งก็ชัดเจนว่าหากไม่ถือหุ้นก็โอนไม่ได้ หากกิจการเลิกแล้วก็จะไม่มีกาถือหุ้นแม้แต่หุ้นเดียว
นายนพรุจ กล่าวว่า อยากให้กรณีนี้สิ้นสุด เพราะหากส่งแคนดิเดตนายกฯ ที่มีปัญหาไม่จบ นำขึ้นทูลเกล้า เพื่อโปรดฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ นั้นไม่สามารถทำได้ อีกทั้งจะเป็นการระคายเบื้องพระยุคลบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นส.ว. จึงต้องทำหน้าที่ โดยตนได้นัดหมายกับนายสมชาย แสวงการ และนายเสรี สุวรรณภานนท์ เพื่อมอบเรื่องและหลักฐานให้ส.ว. ให้เข้าชื่อเพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และจะส่งเอกสารไปยังรัฐบาลเก่า และรัฐบาลทิพย์ทางไปรษณีย์ เพื่อเสนอให้ลงชื่ออีกทางหนึ่ง โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนที่จะมีการเปิดสภา ตนมั่นใจว่าไม่สามารถนำรายชื่อนายพิธา เสนอทูลเกล้าฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้
“องค์ประกอบการส่งศาลรัฐธรรมนูญครบแล้ว กกต.ไม่ใช่ศาล การมานั่งรอ เหมือนเป็นการประวิงเวลาให้ใคร วันนี้เลยมาร้องใหม่ และไม่ได้หวังทางคุณมากแล้ว หากภายในวันที่ 28 มิ.ย. คุณยังไม่ได้ดำเนินการ ส.ว.ส่งศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน”
นายนพรุจ กล่าวว่า การต่อสู้ของตน เพื่อต้องการให้รู้ว่าทุกคนเสมอภาคกัน นายพิธาไม่สามารถได้อภิสิทธิ์ใดๆ จากรัฐธรรมนูญเหนือคนอื่น เพราะก่อนหน้านี้ กกต.มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร กรณีถือหุ้นสื่อไปก่อนหน้านี้