“เศรษฐา” ประกาศเดินหน้า “ทรานส์ฟอร์มเพื่อไทย” ปลุกลูกพรรคร่วมใจสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มั่นใจนำพรรคคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า เผยการทำงานรูปแบบใหม่เริ่มแล้ว จากการลงพื้นที่พบประชาชน แพร่-น่าน-เชียงใหม่ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
วันที่ 21 มิถุนายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวในงานสัมมนาโครงการเสริมศักยภาพ ส.ส.และบุคลากรทางการเมือง พรรคเพื่อไทยว่า การประชุมของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยวันนี้ได้มีการเปิดเวทีให้ ส.ส. ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่่ดีที่ได้มีการระบายความในใจกัน แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยยึดโยงประชาชน มีหัวใจที่จะดูแลพี่น้องประชาชน และพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลต้องร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยให้ได้ จะต้องไม่ให้อำนาจเก่ากลับเข้ามาอีก วันนี้พี่น้องประชาชนเลือกเราเข้าเพราะอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิม
นายเศรษฐา กล่าวว่า เราต้องยอมรับในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเราไม่ชนะ และเราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดให้ได้ ข้อดีคือเราต่อสู้และยึดโยงกับประชาชน ไม่มีใครมากล่าวหาเราได้ว่าเราไม่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ส.ส.ทุกคนทำพื้นที่อย่างหนัก เอาปัญหาประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าใครจะพยายามชนะเรา แต่ถ้าเรายึดโยงกับประชาชนแล้วเราจะไม่มีวันแพ้ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์พิเศษ เพราะประชาชนประสบทุกข์และต้องอยู่กับความยากลำบากมานาน วันนี้เราจะต้องทรานส์ฟอร์มเพื่อไทยให้ได้ เปลี่ยแปลงตัวเราเองให้ได้ แต่การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตามที่สุดแล้วต้องกลับไปหาประชาชน วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะเปลี่ยนแปลงพรรค จะมีการตั้งคณะทำงานให้ ส.ส. ทั้งที่เป็นคนเก่าและคนใหม่ คณะกรรมการบริหารพรรค และผู้ใหญ่ในพรรคได้มีส่วนร่วมในการทำงานอย่างจริงจัง
“ผมได้เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงการทำงาน ด้วยการลงพื้นที่จังหวัดน่าน แพร่ และเชียงใหม่ ซึ่งไม่ได้มีจุดประสงค์จะให้เกิดการเปรียบเทียบกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคก้าวไกล แต่ต้องการแสดงเจตจำนงค์กับพี่น้องประชาชนว่าพรรคเพื่อไทย เริ่มต้นทำงานแล้ว โดยเอาความดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เราเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ลงพื้นที่ต่อเนื่อง และทำในแบบที่แตกต่าง ไม่ต้องเอามวลชนมาต้อนรับ ไปนั่งคุยกับพี่น้องประชาชนเป็นกลุ่มเล็กๆ เอาพี่น้องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาในพื้นที่ แต่ละด้านมาคุยหาวิธีการแก้ไขเพื่อตอบโจทย์ในทุกพื้นที่ เวลาในการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ดีที่สุดคือเวลาที่เราแพ้ ดังนั้นทุกคนต้องมามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงแล้วเดินไปข้างหน้าทั้ง ส.ส.ใหม่ และ ส.ส.เก่า ทุกคนจะเดินหน้าไปด้วยกัน แล้วเราจะกลับมาใหม่ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผมมั่นใจถ้าเราพร้อมใจกันเราจะคว้าชัยชนะเป็นที่หนึ่งอีกครั้ง” นายเศรษฐา กล่าว