หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2566 การเมืองมีทางออก แค่ทุกฝ่ายอย่านอกคอกกติกา ...*...

สอดรับการดวงดาว เมื่อ ดาวพุธ ก้าวออกจาก ราศีพฤษภ ไปสู่ ราศีมิถุน เมื่อ วันอาทิตยที่ 18  ที่ผ่านมา การเมืองเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อ 6 เสือ กกต. ที่มี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ก็ไม่ชะลอเวลา ปล่อยผี 500 ส.ส. ทั้งจาก 400 ส.ส.เขตเลือกตั้ง กับ 100 ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตบเท้าเข้าสภาฯไปก่อน ส่วน ที่มีการร้องเรียนทุจริตการเลือกตั้ง 82 คน เกรงว่า จะสอบสวนเสร็จไม่ทันภายในกำหนด 60 วัน ยังเหลือเวลาให้สอบให้สอยภายใน 1 ปี “บารอน” ว่าก็ดีครับ ขอแค่ทุกฝ่ายยอมรับกติกา ทุกปัญหามีทางออก อย่านอกคอกรัฐธรรมนูญ ...*...

ไทม์ไลน์ต่อจากนี้ 500 ส.ส. ต้องไปขอใบรับรองจาก กกต. ภายในวันเสาร์ที่ 24 นี้ ก่อนที่จะไปรายงานตัวต่อสภาฯ คาดกันว่า จะมีพระราชพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ใน วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม จากนั้น ภายใน 10 วัน หรือ ไม่เกินวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม จะมีการ ประชุมสภาฯครั้งแรก เพื่อ ให้ 500 ส.ส.ปฏิญาณตน และ เลือกประธานสภาฯ แล้วเสร็จ ต้องรอโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานสภาฯต่อไป ขั้นตอนแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ถึงค่อยกำหนดวันประชุมร่วมสองสภา เพื่อ เลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ...*...

ท่านแสวง บุญมี เลขาฯ กกต.ในฐานะ นายทะเบียนพรรคการเมือง ชิงเล่นเกม ไม่เปลืองตัว ไม่ต้องกลัวความผิดพลาด คดีขาดคุณสมบัติ ส.ส. เพราะ ไปถือหุ้นสื่อ ไอทีวี ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ด้วยการ ชิงรับรอง ส.ส. เลยต้อง ชะลอการฟ้องร้อง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในคดีอาญาออกไปก่อน ต้องรอขั้นตอน พิสูจน์ความผิด ตามมาตรา 98 (3) จาก ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ เหลืออยู่ 2 ช่องทาง ที่ จะนำขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญได้ คือ กกต.ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเอง หรือ ส.ส.50 คนเข้าชื่อ เสนอผ่านประธานรัฐสภาร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการโยนเผือกร้อนออกจากมือ นายแน่มาก ...*...

ยังชิงไหวชิงพริบกัน ระหว่าง 2 พรรคใหญ่ คือ ก้าวไกล กับ เพื่อไทย ว่า ใครจะได้โควตาประธานสภาฯ ประสา บารอน หาข่าวการเมืองมานานกว่า 40 ปี ไม่มีครั้งใดจะแบ่งโควตาอำนาจได้ยากเท่าครั้งนี้ เพราะ 2 พรรคใหญ่ร่วมรัฐบาล ต่างมีคะแนนเสียงทิ้งห่างกันแค่ 10 เสียง แถม เป็นคะแนนเสียงรับรองไปก่อนสอยทีหลัง ทำให้ วันข้างหน้ายังไม่แน่ ว่า พรรคเป็นรอง อย่าง เพื่อไทย อาจจะ มีที่นั่งในสภามากกว่าพรรคก้าวไกล ที่มีที่นั่งมากกว่าในปัจจุบันก็ได้ ...*...

บรรทัดนี้ บารอน จึงเห็นด้วยกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำสายบ้านใหญ่จันทร์ส่องหล้า 151 เสียง ของ พรรคก้าวไกล สมควรได้ 1 ประมุขฝ่ายบริหาร คือ นายกรัฐมนตรี ส่วนเก้าอี้ ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ หรือ ประธานสภาฯ ควรยกให้พรรคเพื่อไทย การเป็น รัฐบาลผสม ต้องกินแบ่ง ไม่ใช่กินรวบ หยั่งที่ ท่านอดิสร เพียงเกษ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มแคร์พรรคเพื่อไทยว่าไว้ ...*...

ที่นี่ บารอน หาข่าว เก้าอี้ประธานสภาฯ ยังสรุปไม่ได้ครับ นายภูมิธรรม เวชยชัย เพียงแค่ พูดในหลักการ เท่านั้นว่า พรรคอันดับหนึ่ง สมควรได้ ตำแหน่งประธานสภาฯ และ พรรคอันดับสอง สมควรได้ ตำแหน่งสองรองประธานสภาฯ โดย ไม่ระบุชื่อพรรค ยังยักไว้ เหมือนมั่นอะไรอยู่ในใจลึกๆ ศึกนี้ยังไม่จบ รอนับศพทหารก่อน ...*...

ไม่ถึงกับฟันธง บารอน พูดตรงๆ พรรคเพื่อไทย ไม่ว่าการเมืองจะพลิกซ้ายพลิกขวา เป็นพรรคใหญ่ร่วมรัฐบาลแน่นอน ส่วน พรรคก้าวไกล มีโอกาสพลิกล็อก ถูกน็อกกลางอากาศ โอกาสพลาด เป็นฝ่ายค้านก็มีความเป็นไปได้มาก บวกกับ พูดถึงความเหมาะสม ที่นี่ บารอน มองเห็น ตัวบุคคลในพรรคเพื่อไทยมีความเหมาะสม ที่ จะนั่งเก้าอี้ประธานสภาฯหลายคนมากกว่าพรรคก้าวไกล มองเข้าไปในพรรค แทบจะหาคนพรรษาบารมีถึงประธานสภาไม่มีเลย ...*...

ที่มา:บารอน (21/6/66)