นายเกรียงไกร พัฒนาภรณ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจทางหลวงกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตประจวบคีรีขันธ์ จับกุมนายสมบัติ อายุ 47 ปี ฐานความผิดบรรทุกน้ำมันเถื่อนไม่เสียภาษี บริเวณริมถนนเพชรเกษม อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ บรรทุกน้ำมันดีเซล 15,000 ลิตร จากนั้นมีปัญหาผู้บริหารระดับสูงของกรมสรรพสามิต โทรศัพท์มาขอเจรจาไม่ให้จับกุมนายสมบัติ อธิบดีกรมสรรพสามิตจึงสั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ในช่วงที่ผ่านมา
ผลจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าผู้โทรมาเจรจากับตำรวจทางหลวงเพื่อไม่ให้ดำเนินคดี คือ ผู้อำนวยการส่วนภายใต้สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม (ระดับชำนาญการพิเศษ) กรมสรรพสามิต อธิบดีกรมสรรพสามิต จึงมีคำสั่งพักราชการ ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา จากนั้ยเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดทางวินัยร้ายแรง ตามขั้นตอนข้าราชการกรมสรรพสามิต ยังได้ทำหนังสือไปถึงตำรวจทางหลวง ขอข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อนำมาขยายผลเอาผิดกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตที่เกี่ยวข้อง
"โดยเฉพาะการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจทางหลวง ยอมรับว่ามีหลักฐานบันทึกเสียงสนทนา ปัญหาน้ำมันเถื่อน เพราะการสอบสวนต้องร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เพื่อให้เกิดความโปร่งใส หากหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงข้าราชการระดับสูงในกรมสรรพสามิต หากมีหลักฐาน อธิบดีกรมสรรพสามิต กำชับให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยไม่มีละเว้น หากเป็นระดับรองอธิบดี ต้องส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาเอาผิดตามขั้นตอน"