หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2566 การเมืองเห็นต่างไม่เป็นไร แต่ คำวินิจฉัยของศาลทุกฝ่ายต้องเคารพ…*…

กลายเป็นประเด็นการเมือง ที่ ร้อนฉ่าขึ้นมาทันที เพราะ มีเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นเดิมพัน คือ คดีถือหุ้นสื่อ ไอทีวี ที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือไว้ในชื่อตน มานานกว่า 10 ปี ถูกนักร้องชื่อดังมือฉมัง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ โดดลงสนามการเมือง ในฐานะ สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งใหญ่ ปี 2562  เมื่อต่อเนื่องมาถึง ปี 2566 คราวนี้ถูกยกฐานะขึ้นมา เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นชื่อพรรคใหม่ทดแทนพรรคเก่า อนาคตใหม่ที่ถูกยุบ …*…

เริ่มจาก การเปิดคลิปประชุมผู้ถือหุ้น ไอทีวี ดันผ่า ไม่ตรงกับบันทึกการประชุม กลายเป็น ประเด็นมองต่างมุม ในกลุ่มเชียร์ก้าวไกล กล่าวหาว่าเป็นการจัดฉาก เพื่อ ปิดปากนักร้อง ที่ จ้องสกัด นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ให้ก้าวไปไกล ถึงความฝัน เก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่สามสิบ หนทางยังอีกไกลลิบ โอกาสจะหยิบชิ้นปลามัน ยิ่งนานวัน สวรรค์ห่างไกลออกไปทุกที …*…

ไอทีวี เป็น สื่อโทรทัศน์ ต่อมา สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีความเห็น ยกเลิกสัญญาสัมปทานคลื่นทีวี แต่ถูก ไอทีวีเห็นแย้ง มีการแจ้งให้ ตั้งคณะอนุญาโตตุลาการ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ตัวแทน สปน. กับ ไอทีวี ที่เป็นคู่กรณี มีอัยการสูงสุด ที่ขณะนั้น นายชัยเกษม นิติศิริ หนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เป็นอัยการสูงสุด ร่วมกันเป็น คณะอนุญาโตตุลาการ ร่วมกันพิจารณาสรุปได้ว่า สปน.ปฏิบัติมิชอบ ข้อตกลงว่า ให้มอบสัมปทานคลื่นทีวีคืนกลับให้ ไอทีวี และ ข้อสองที่สำคัญ คือ เป็นเหตุให้ ไอทีวีไม่มีสื่อ จึงทำให้ ขาดรายได้ไป 2,600 ล้านบาท โดย สปน.ต้องชดใช้ ...*...

สปน. ไม่ยอมรับคำตัดสิน ของ คณะอนุญาโตตุลาการ นำความ ไปร้อง ศาลปกครองกลาง ที่ตัดสินให้ สปน.ต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัย ของ คณะอนุญาโตตุลาการทุกประการ จนถึงปัจจุบัน สปน.นำขึ้นสู่ศาลปกครองสูงสุด ที่ ยังไม่หลุดคำสั่งออกมา ...*...

เพราะงั้น คำตอบในคลิป ที่ว่า ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อนนะ ถ้า ไม่ไร้วุฒิภาวะ หรือ แกล้งโง่เซ่อบ้า ทำเป็นเข้าใจว่า ไอทีวีปฏิเสธมิใช่สื่อ เค้าเรียกว่าดื้อตาใส เพียงแค่บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็จะดำเนินการได้อย่างไร ในเมื่อยังต้องรอผลคดีความ สิ้นสุดแล้วเมื่อไหร่ แล้วได้สัมปทานคลื่นทีวีกลับคืน ยืนยันว่า เป็นสื่อทีวีดังเดิมแน่นอน เพราะ  ยังมีเดิมพันก้อนโต 2,600 ล้านบาท รอให้ สปน.ชดใช้อยู่ เป็นการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์บริษัท ไม่เห็นจะไปเกี่ยวพันการเมืองที่ตรงไหน ไม่ได้เป็นเกมสกัดใครทั้งสิ้นทั้งปวง ห่วงแต่ผลประโยชน์บริษัทเท่านั้น ...*...

 อะไรไม่ว่า เหตุการณ์ในคลิป ระบุว่า เป็นวันที่ 26 เมษายน 2566 ก่อนการเลิกตั้ง วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นานกว่า 18 วัน ในตอนนั้น เซียนเลือกตั้งทุกสำนัก ยังทายทักว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะที่1 และบางสำนักโพล ยังฟันธง เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ให้คะแนน พรรคก้าวไกลไม่ถึงร้อย หรือแม้แต่ คำร้อง ของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ไป ยื่นต่อ กกต. กล่าวหา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขัดรัฐธรรมนูญ การถือหุ้นสื่อ ส่งผลให้ ขาดคุณสมบัติการสมัคร ส.ส. ใน วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ก็ก่อนถึงวันเลือกตั้ง ...*...  

ไม่มีใครวาดหวัง ที่ จะสกัดกั้นนายพิธาได้ล่วงหน้า ดอกครับ ท่านอาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ที่นี่ บารอน ว่า มาช่วยกันสนับสนุนก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค 312 เสียง เพราะ เป็นความชอบธรรม ตามหลักการประชาธิปไตย ยึดพรรคเป็นหลัก โปรด อย่ายึดตัวบุคคลเลย ดีกว่าครับ ...*...

 เป็นความประมาท และ ผิดพลาดอย่างแรง ของ พรรคก้าวไกล ที่ อาจจะไม่คิดก่อน ว่า จะเป็นพรรคชนะการเลือกตั้งอันดับหนึ่ง  ถึงประมาทเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ทั้งๆที่ยังมี นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค อาวุโสมากกว่า เพียงพอที่ พร้อมจะเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีอันดับสอง ...*...  

สถานการณ์การเมืองวันนี้ พรรคก้าวไกล จึงตกเป็นรอง พรรคอันดับสอง พรรคเพื่อไทย ถ้ายังจับมือกันไว้ ต้องยอมให้แคนดิเดทนายกฯเพื่อไทย คนใดคนหนึ่ง ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี อย่าไปใช้วิธี เอาม็อบเด็กลงถนน เพื่อ กดดัน กกต. หรือแม้แต่ ส.ว.เลยครับ เพราะ การใช้กฎหมู่ ถือเป็น เผด็จการอีกรูปแบบหนึ่ง ไปๆมาๆจะกลายเป็นว่า บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะ เผด็จการอยากเป็นประชาธิปไตย ส่วน ฝ่ายที่อ้างตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย จะกลายเป็น เผด็จการเสียเอง ที่นี่ บารอน อยากเห็น การเมืองในสภาฯ มากกว่า การเมืองบนถนน ที่ ประชาชนเบื่อเต็มทนแล้วครับ

ที่มา:บารอน (14/6/66)