วันที่  8 มิ.ย.66 ที่สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล และนายกสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย เดินทางมาที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าพบ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. ตามนัดหมาย เพื่อให้ข้อมูลและมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกรณี นายวิโรจน์ฯ เปิดเผยขบวนการเรียกรับผลประโยชน์จากส่วยสติกเกอร์ทางหลวงทั่วประเทศ ตามที่เป็นกระแสข่าว ก่อนหน้านี้ โดยมีการตั้งคณะกรรมการฯ 2 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และ สืบสวนวินัยในเรื่องดังกล่าว

ในการนี้ พล.ต.อ.วิสนุฯ จตช. ได้ออกมาต้อนรับ นายวิโรจน์ฯ และกลุ่มสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย ด้วยตนเอง ก่อนที่จะเชิญเข้าไปพบปะพูดคุยกันภายในห้องรับรอง สตช.

โดย พล.ต.อ.วิสนุฯได้ตอบข้อซักถามกับสื่อมวลชนว่า  การนัดหมายครั้งนี้ เพื่อให้นายวิโรจน์ฯ และ กลุ่มสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย ครั้งนี้ ได้นำข้อมูลและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อมอบให้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก ทั้ง 2 ชุด ได้รับทราบในคราวเดียว ประกอบด้วย

1) คณะกรรมการจากสำนักงานจเรตำรวจ นำโดย พล.ต.ท.ฎิษพจน์ อิศรางกูล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ 

2) คณะกรรมการจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นำโดย พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. ประธานกรรมการ


ซึ่งคณะกรรมการฯทั้ง 2 ชุด จะนำข้อมูลที่ได้ในวันนี้ ไปดำเนินการตรวจสอบแบบคู่ขนาน และแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งจะมีการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพยานที่เกี่ยวข้องอื่นๆมาพบ เพื่อบันทึกถ้อยคำ และจะเร่งรัดดำเนินการตรวจข้อสอบให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ได้กำชับให้คณะกรรมการ ทั้ง 2 ชุด ดำเนินการให้อยู่ภายในกรอบของ กฎ ระเบียบ กฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่ามีข้าราชการตำรวจรายใด หน่วยใด มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นเป็นใจ หรือ เรียกรับผลประโยชน์ตามข้อร้องเรียนจริง ก็ให้รายงานและดำเนินการทั้งวินัย และ อาญา ภายในอำนาจโดยเด็ดขาด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง และสามารถตอบคำถามสังคมได้ 


ในขณะเดียวกันหากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีข้าราชการหน่วยงานอื่นมีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นเป็นใจ หรือ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำผิด ก็จะส่งเรื่องให้ต้นสังกัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่นกัน….พล.ต.อ.วิสนุฯ กล่าว