ข้าวสาลีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีปริมาณโปรตีนสูง และคาร์โบไฮเดรตในกลุ่มที่เรียกว่า Photosugar ซึ่งใช้เป็นอาหารเสริม และการใช้ประโยชน์ต้นของข้าวสาลี ซึ่งมีเส้นใยมากยังมีประโยชน์ต่อระบบย่อย แต่ในประเทศไทยยังมีการผลิตได้น้อย ข้าวสาลีจึงนับว่าเป็นพืชทางเลือกใหม่ที่มีศักยภาพในการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดีหากมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสม

ดร.สิปปวัชญ ปัญญาตุ้ย นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง กองวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว เปิดเผยว่า จากการวิจัยพืชเมืองหนาวเกี่ยวกับข้าวสาลี ผลิตภัณฑ์ต้นแบบจาก ข้าวสาลีขนมปังสายพันธุ์ดีเด่น SMGBWS8808 เป็นพันธุ์ข้าวสาลีที่เหมาะสมในการทำขนมปังให้ได้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพดี จึงได้ดำเนินการศึกษาพันธุ์ข้าวสาลีขั้นต้น เปรียบเทียบผลผลิตภายในสถานี ระหว่างสถานี และทดสอบพันธุ์ข้าวสาลีขนมปังในนาราษฎร์ ตั้งแต่ฤดูปลูกปี 2560-2563 พบว่า จากการศึกษาพันธุ์ข้าวสาลีขนมปัง จำนวน 20 สายพันธุ์ มีข้าวสาลีจำนวน 8 สายพันธุ์ที่มีศักยภาพในการให้ผลผลิตสูง (FNBW8301-5-5, FNBW8310-1-SMG-1-1-1, LARTC-W89011, MHSBWS12010, MHSBWS12046, PMPBWS89013, PMPBWS89248 และ SMGBWS88008) และจากการเปรียบเทียบผลผลิตภายในสถานี ระหว่างสถานี และการทดสอบพันธุ์ข้าวสาลีขนมปังในนาราษฎร์ สายพันธุ์ LARTC-W89011 มีค่าเฉลี่ยของผลผลิตสูงสุด และ SMGBWS88008 สามารถใช้แปรรูปเป็นแป้งขนมปังได้ดีกว่าสายพันธุ์อื่น

กรมการข้าว จึงมีแนวโน้มการผลักดันในการขยายผลการปลูกข้าวสาลี ในพื้นที่ที่เหมาะสมในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากพันธุ์ข้าวสาลีนำมาจากต่างประเทศ ซึ่งธรรมชาติของข้าวสาลีเป็นพืชฤดูหนาว จึงต้องปลูกปลายฤดูฝน หรือหลังเก็บ เกี่ยวข้าวนาปีแล้ว พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าวสาลีจึงเป็นพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะ พื้นที่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับผู้ผลิตแป้งสาลีที่เน้นผลิตภัณฑ์วิธีธรรมาชาติหรืออนุรักษ์นิยมใช้วัตถุดิบภายในประเทศ และจะมีการขยายผลผลิตในการแปรรูปเป็น “คราฟเบียร์” เพื่อขยายช่องทางการตลาด และเพิ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกร และตอนนี้อยู่ในช่วงการวิจัย พื้นที่การปลูกที่เหมาะสมกว่า 2,000 ไร่ และจะมีการขยายพื้นที่การปลูกให้เยอะกว่านี้ แต่จำกัดด้วยอุณหภูมิ 5 องศา ไม่เกิน 30 องศาที่เหมาะสมกับพันธุ์ข้าว สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 093-312-1881

ในการจัดงานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2566 ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยการจัดงานในส่วนกลางจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายน 2566 ณ กรมการข้าว ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ภายใต้ชื่องาน "91 พรรษา สายธารแห่งน้ำพระทัย สร้างชาวนาวิถีใหม่ สู่ข้าวไทยยั่งยืน" และในส่วนของภูมิภาคอีก 2 แห่ง ซึ่งจัดใหญ่ไม่แพ้กัน คือ จ.พิษณุโลก จัดขึ้นที่ ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ในวันที่ 16-17 มิถุนายน 2566 และ จ.นครราชสีมา จัดขึ้นที่ Korat Hall ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล นครราชสีมา จ.นครราชสีมา ในวันที่ 22-23 มิถุนายน 2566 ภายในงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์, นิทรรศการเชิดชูเกียรติชาวนาและสถาบันชาวนา, นิทรรศการวิชาการ จากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน, การจัดเวทีเสวนาข้าวและชาวนาในหัวข้อ การลดต้นทุนการผลิตข้าวโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, การจำหน่ายสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์ โดยเป็นสินค้าประเภทข้าวสารและสินค้าแปรรูป, การแสดงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาด้านข้าวและชาวนาและการแสดงวัฒนธรรม 4 ภาค กิจกรรมสาธิตและแข่งขันส่งเสริมงานวิชาการในข้าวไทย การประกวดวาดภาพสีโปสเตอร์, การประกวดงานศิลปะเรียงเมล็ดพันธุ์ข้าว อีกทั้งภายในงานยังเปิดโอกาสให้บุคคลที่สนใจลงทะเบียนรับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน จากพระราชพิธีพืชมงคลฯ เพื่อเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคลในการประกอบอาชีพการเกษตร ซึ่งการจัดงานที่ จ.พิษณุโลก ในงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 91 พรรษา, นิทรรศการเชิดชูเกียรติชาวนา, ขบวนแห่และบูชาพระแม่โพสพ, การเสวนาหัวข้อ ทางรอดชาวนาไทย ลดต้นทุนการผลิต ภายใต้วิกฤติปุ๋ยแพง ค่าแรงสูง และหัวข้อ คาร์บอนเครดิตไทย ก้าวไกล ได้ราคา ตลอดจนการสาธิตต่างๆ เช่น สาธิตการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร, การจัดแปลงสาธิตการปรับพื้นที่ด้วยเลเซอร์, ประกวดธิดาชาวนา, แข่งขันฝัดข้าวลีลาและหุงข้าวหม้อดิน, แข่งขันตอบคำถามองค์ความรู้ด้านข้าว

พร้อมช็อป ชม ชิม ผลิตภัณฑ์จากข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ และการจัดงานที่ จ.นครราชสีมา จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ 91 พรรษา, ขบวนแห่อัญเชิญพระแม่โพสพ, การแสดงเปิดงานชุด ยอน้อมวันทา บูชาพระแม่โพสพ, การสาธิตจัดแสดงนวัตกรรมข้าวในรูปแบบต่างๆ, นิทรรศการและการสาธิตด้านการลดต้นทุนการผลิตข้าว, การประกวดหนุ่มข้าวเหนียว สาวข้าวหอม ปี 2566, การแข่งขันกินข้าว ช็อป ชม ชิม ผลิตภัณฑ์ข้าวจากกลุ่มชาวนาทุกภาค มากกว่า 50 บูธ