"เจ้าพระยา"กระตุกด้อมส้มใครวางยา"พิธา" จับตาเพื่อไทยกินรวบ

สยามรัฐ ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติศาสน์ กษัตริย์ ยืนหยัดรับใช้สังคมด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ ...*...  

ถึงวันนี้ อุปสรรคสำคัญที่ขวางการขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลไม่ใช่ 250 ส.ว. หากแต่มาจากปัญหาส่วนตัวของนายพิธาเอง ...*...

แทนที่จะเอาแต่ชี้นิ้วต่อว่าฝ่ายนั้นฝ่ายนี้กลั้นแกล้งจ้องสกัดนายพิธา บรรดาด้อมส้มควรหันกลับไปถามนายพิธาด้วยว่าทำไมไม่เคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย อีกทั้งในพรรคก้าวไกลมีใครวางยานายพิธาหรือไม่ เพราะไม่น่าพลาดปล่อยให้คนระดับแคนดิเดตนายกฯของพรรคมาสุ่มเสี่ยงกับการ “ตายน้ำตื้น” ด้วยเรื่องการถือครองหุ้นสื่อ ทั้งที่เคยมีบทเรียนจากกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่มาแล้ว ...*...

โดนอคติบังตาบังใจจนน่าเป็นห่วง สำหรับเหล่านักกฎหมายนักวิชาการที่เห็นชัดว่าเจตนาหยิบฉวยข้อเท็จจริงทางกฎหมายเพียงบางส่วน มาใช้สร้างกระแสกดดันให้กกต.ปล่อยผ่านนายพิธา ก็รอดูกันต่อไป บทสรุปเรื่องนี้จะเป็นยังไง เข้าทางบางกลุ่มบางฝ่ายที่จ้องหาประเด็นปลุกระดมมวลชนลงท้องถนนตามคำบงการของต่างชาติที่กำลังเข้าแทรกแซงการเมืองไทยหรือไม่ ...*...

อย่างที่รับรู้รับทราบกัน การเมืองแบบไทยๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ 1 + 1 ไม่จำเป็นต้องได้ 2 เสมอไป ฉะนั้นจึงไม่มีอะไรน่าแปลกใจ ทำไมทั้งที่ 8 พรรค ทำบันทึกข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลใหม่กันเรียบร้อยแล้ว แต่กลับมีคนจำนวนไม่น้อยให้น้ำหนักกับข่าวลือเรื่องดีลลับครั้งแล้วครั้งเล่าที่นั่นที่นี่ เพื่อฉีกบันทึกข้อตกลงดังกล่าว โดยเฉพาะภายหลังพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยเปิดศึกแย่งชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ...*...  

“สถานการณ์ของพรรคร่วม 8 พรรคตั้งรัฐบาลนั้น พรรคเพื่อไทยแสดงพฤติกรรมต้องการกินรวบทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรและนายกฯ  โดยพรรคก้าวไกลจะไม่เหลืออะไรเลย พร้อมทั้งจะถูกสลัดให้เป็นฝ่ายค้านอีกด้วยสถานภาพของนายพิธาจะถูกรับรองให้เป็น ส.ส.ไปก่อน แล้ว กกต.จึงยื่นศาล รธน. กรณีถือหุ้น ไอทีวี ดังนั้น ทางเลือกของนายพิธา มีเพียงถูกศาลสั่งให้ยุติปฎิบัติหน้าที่ หรือให้ทำหน้าที่ ส.ส.ไปก่อนได้ สิ่งที่สำคัญค่อนข้างแน่ชัดคือ นายพิธา จะไม่ได้ทำหน้าที่ในวันโหวตเลือกประธานสภา หรือเมื่อถูกสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่แล้ว ย่อมลามไปถึงพรรคก้าวไกลไม่มีตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ ด้วย ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายกินรวบเสียเอง จึงต้องเร่งเกมเอาประธานสภาเสียเอง” มุมมองจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ที่ถูกแชร์ว่อนในโลกโซเชียล ...*...

พร้อมกันนี้นายจตุพรยังชี้ด้วยว่าการผลักให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านนั้น สถานการณ์เริ่มบ่งชัดขึ้นตามลำดับ ว่าพรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายไปจับมือเกือบทุกพรรคในฝ่าย 188 เสียงตั้งรัฐบาล ดังนั้น ละครการเมืองนี้ จะจบลงในวันที่มีการเลือกประธานสภาเมื่อพรรคเพื่อไทยฮุบชิงมาไว้กับตัวเองอย่างเบ็ดเสร็จ ...*...

อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือสารพัดดีลลับ ทั้งประกาศย้ำเจตนารมณ์พร้อมจับมือกับพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล และสนับสนุนให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ...*...

“ดีลลับฮ่องกง ดีลลับสิงคโปร์  ดีลลับอังกฤษ  ดีลลับลังกาวี ฯลฯ ประเทศนี้ตั้งรัฐบาลได้ทีละกี่ชุด มันจะดีลอะไรกันทุกวี่ทุกวัน” นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุ ...*...

สุดท้ายก็ต้องรอดูกันต่อไป การเมืองจะเคลื่อนไปในทิศทางไหน ประเทศชาติจะเป็นเช่นไร ใช่เป็นไปตามที่ประชาชนวาดหวังจากการเลือกตั้งหรือไม่ ...*...

ที่มา:เจ้าพระยา (1/06/66)