นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์. ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)เปิดเผยว่า คณะกรรกมาร กบน.ที่มี รมว.พลังงานเป็นประธานได้สั่งการให้กองทุนฯเตรียมสรุปสมมติฐานต่างๆ(Scenario Analysis) เสนอทั้งรัฐบาลรักษาการ และรัฐบาลใหม่ เพื่อให้ทราบทิศทางและให้นโยบายทางการเมืองว่าจะตัดสินใจดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับทิศทางราคาดีเซล ซึ่งขณะนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 32 บาท/ลิตร ภายใต้การลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาทต่อลิตร จนถึงวันที่ 20 ก.ค.66(จัดเพียง 1.34 บาท/ลิตร) และเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ 5.43 บาท/ลิตร โดย กบน.ได้ติดตามราคาไปจนถึงสิ้นปี 2566 ประเมินว่า หากราคาดีเซลตลาดโลก อยู่ที่ราคาปัจจุบันประมาณ 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 33-35 บาท/เหรียญสหรัฐได้เตรียมทำสมมติฐาน 2 แนวทางได้แก่
1.กรณีนโยบายภาครัฐให้ขึ้นภาษีดีเซล 5 บาทต่อลิตรหลังวันที่ 20 ก.ค.66 ทาง กบน.ก็คาดว่า จะสามารถรักษาระดับราคาดีเซล 32 บาท/ลิตร ด้วยการลดการจัดเก็บเงินกองทุนประมาณ 5 บาท/ลิตร โดยกองทุนสำหรับดีเซลจะเหลือประมาณ 43 สตางค์/ลิตร ก็จะเพียงพอในการดูแลสภาพคล่องกองทุนฯได้
2.กรณีรัฐบาลต้องการให้ลดราคาดีเซลต่ำกว่า 32 บาท/ลิตร กรณีนี้ รัฐบาลก็ต้องใช้นโยบายภาษีเข้ามาร่วมดูแลด้วยโดยแทนที่จะขึ้นทันที 5 บาท/ลิตร ก็จะต้องทยอยขึ้น อาจจะเป็น 2-3 บาทต่อลิตร แนวทางนี้กองทุนฯก็จะร่วมดูแลโดยการลดการจัดเก็บเงินกองทุนฯควบคู่ไปด้วย เช่น หากต้องการเห็นดีเซล 30 บาท/ลิตร ก็ต้องลดภาษีต่อ อีก 2 บาท/ลิตร และลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันลง 5 บาท/ลิตร
โดยปัจจุบัน (29 พ.ค.66) เงินกองทุนน้ำมันฯล่าสุดติดลบ 69,000 ล้านบาท จากเคยติดลบสูงสุดกว่า 1.3 แสนล้านบาท โดยสภาพคล่องในขณะนี้ดีขึ้นจากราคาน้ำมันโลกที่ลดลง มีเงินไหลเข้าราว 10,000 ล้านบาท/เดือน (จากการจัดเก็บเงินกองทุนอัตราปัจจุบัน ) และอีก 2 เดือนคาดว่า เงินกองทุนฯจะติดลบเหลือ 5 หมื่นล้านบาท เพราะฉะนั้นหากลดเงินกองทุนฯที่เก็บดีเซลจาก 5.43 บาทเหลือประมาณ 0.43 บาท/ลิตร จากยอดการใช้ดีเซลราว 65-67 ล้านลิตรต่อวัน ก็คาดว่าจะมีเงินไหลเข้ากองทุนส่วนนี้ ประมาณ 1,000 ล้านบาท/เดือน ก็น่าจะมีเงินเพียงพอในการจ่ายคืนเจ้าหนี้ ที่กองทุนฯกู้ ที่ ขณะนี้กู้แล้ว 5 หมื่นล้าน บาท และจะกู้เพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาทเป็น 7 หมื่นล้านบาทภายในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งกู้เท่านี้ก็จะเพียงพอไม่ต้องกู้เพิ่มอีกตามกรอบได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเพื่อกู้ในวงเงิน 150,000 ล้านบาท โดยบรรจุเป็นหนี้สาธารณะของประเทศไปแล้ว 110,000 ล้านบาท
ทั้งนี้กองทุนฯพร้อมจะลดการจัดเก็บเงินสำหรับดีเซล โดยจะต้องพิจารณาทั้งจากนโยบายรัฐบาล ราคาตลาดโลก การจ่ายคืนเจ้าหนี้ และการดำเนินการตามวินัยการเงิน การคลัง ซึ่งหากราคาดีเซลสิงคโปร์ ยังอยู่ที่ 90 เหรียญ การใช้ดีเซลยังสูงราว 65-67 ล้านบาร์เรล/วัน เงินสดจะเข้ามาเป็นบวก ไม่ติดลบคาดว่าราคาดีเซลจะอยู่ได้ที่ 32 บาทแม้ว่าจะขึ้นภาษี 5 บาท/ลิตร
โดยปัจจัยหลักที่สภาพคล่องกองทุนฯดีขึ้นมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกผ่อนคลายลง ดีเซลโลก(Gas Oil) เดือนต.ค.65 ที่เคยสูงถึง 133.84 เหรียญต่อบาร์เรล ได้ปรับลดลงมา โดยช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.(1-12 พ.ค.66) ราคาดีเซลลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 87.49 เหรียญ/บาร์เรล หรือลดลงเฉลี่ยถึงเกือบ 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน ส่วนอีกปัจจัยคือ ความสามารถในการกู้ยืมเงินมาชำระหนี้ของกองทุนน้ำมันฯดีขึ้น ภายหลังจากกระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้ยืมของ สกนช. ทำมีสภาพคล่องมากขึ้นและได้ลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึง 6 ครั้ง จาก 35 บาทต่อลิตร เหลือ 32 บาทต่อลิตร (ณ วันที่ 15 พ.ค.66)
อย่างไรก็ตามปัจจัยคุกคามที่จะมีผลทำให้ราคาน้ำมันกลับมาผันผวนอีก และต้องบริการกองทุนฯเพื่อดูแลเสถียภาพราคาน้ำมัน คือภาวะตลาดโลก ทั้งการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน, การลดอัตรากำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส ,ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ตลอดจนความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ รวมไปถึงทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรป ถดถอย โดยบอร์ด กบน.ได้ประชุมหารือตอ่เนื่อง เพื่อบริหารจัดการต่อเหตุการณ์ได้ทันท่วงที พร้อมทบทวนแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน