วันที่ 29 พ.ค. 66 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการตั้งรัฐบาล ว่า จะเป็นการทำงานในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเป็นหลัก ว่าหลังจากที่ทำMOU ในแต่ละข้อของ MOU จะลงรายละเอียดเป็นรูปธรรมอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดความพร้อมในการบริหาร หลังจากที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการให้ไร้รอยต่อที่สุด 

ในส่วนของกระแสข่าวเรื่องรอยร้าวของพรรคร่วม นายชัยธวัช กล่าวว่า อาจไม่ได้เป็นอย่างที่สื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์การประสานงานภายในเป็นไปได้ดี เพราะทางพรรคก้าวไกลได้ประสานไปยังพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า ในเรื่องของประธานสภาเราควรจะยุติ ในการให้ข่าว หรือให้ความคิดเห็น และพูดคุยกันภายใน น่าจะสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดีกว่า 

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า การประชุมร่วมกันในวันที่ 30 พ.ค. จะเป็นการประชุมแนวทางร่วมกัน ว่าจะทำงานกันอย่างไรให้เป็นรูปธรรม โดยทางพรรคก้าวไกลจะเสนอให้มีการนัดประชุมกันเป็นวาระประจำ และควรจะมีการตั้งคณะทำงานในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล (Transition Team) ที่ต้องมีตัวแทนจากทุกพรรค เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมในการบริหารทั้งในเรื่องของวาระร่วมใน MOU และเพื่อดูว่ามีอะไรที่สำคัญ ๆ ซึ่งตกค้างมาจากรัฐบาลที่แล้ว เช่น ราคาน้ำมันรถไฟฟ้า และเราจะมีท่าทีอย่างไร เพราะไม่อยากให้เดือนก่อนที่จะเป็นรัฐบาลหมดไป เพราะไม่ได้เตรียมพร้อม เพราะประชาชนคาดหวังว่ารัฐบาลใหม่จะแก้ปัญหาทั้งเฉพาะหน้า และระยะยาว 

“โดยหลักจะเป็นการพูดคุยภายในระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทยเป็นหลัก และทางอาจารย์วันนอร์ ก็ได้ให้ข้อคิด ว่าตามหลักประธานสภาควรจะเป็นของพรรคอันดับ 1 รองประธานคนที่ 1 ก็จะเป็นพรรคอันดับ 2 รองประธานคนที่ 2 ก็จะเป็นพรรคอันดับ 3 แต่คงไม่ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุม” 

เมื่อถามถึงกระแสข่าว สูตร 14+1 นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นแค่กระแสข่าว โดยทั่วไปมักมีการการคิดสูตรหารตามโควต้า ซึ่งก็เป็นแนวทางในการจัดแบ่ง แต่รายละเอียดยังไม่ได้เป็นข้อยุติ ซึ่งได้มีการหารือกับแต่ละพรรคเบื้องต้นแล้วว่าแต่ละพรรคมีความประสงค์ที่จะผลักดันภาระเรื่องใดบ้าง ที่ยึดโยงกับตัวหน่วยงาน กระทรวง กรม 

“อย่างที่ได้เรียนไปหลายครั้ง เรายังเอาวาระเป็นตัวตั้ง และมาดูว่าวาระที่แต่ละพรรคให้ความสำคัญนั้น ไปเกี่ยวข้องกับกระทรวง กรม หรือหน่วยงานอื่น ๆ อย่างไรบ้าง ซึ่งเราคิดว่า ด้วยกระบวนการที่ตั้งในคณะทำงานการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล จะทำให้การแบ่งสรรความรับผิดชอบมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ” นายชัยธวัช กล่าว 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่มีการจะนำตำแหน่งประธานสภามาแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน นายชัยธวัชกล่าวว่า ไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง แต่เป็นการประเมิน 

เมื่อถามถึง กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาระบุ ถึงดีลลับรัฐบาลที่ไม่มีพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังยึดว่าหากจะทำงานร่วมกัน การให้เกียรติ และความไว้วางใจซึ่งกันและกันนั้นดีที่สุด ถ้าเรามัวแต่กังวล จะทำให้การทำงานร่วมกันยาก และคงไม่เหมาะสมหากไปถาม 

เมื่อถามถึงการพูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นายชัยธวัช กล่าวว่า หลังทำ MOU ได้ประสาน และพบปะพูดคุยกับทาง ส.ว. ได้มากยิ่งขึ้น เพราะการมี MOU ทำให้มีความชัดเจนในการประกอบการตัดสินใจของ ส.ว. ซึ่งความเป็นห่วงของ ส.ว. แต่ละท่าน ก็แตกต่างหลากหลายออกไป เพราะบางท่านอาจได้รับข้อมูลอย่างจำกัด บางข่าวสารอาจเป็นข้อมูลที่บิดเบือนหรือผิดพลาด แต่เมื่อได้พูดคุยก็ทำให้มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน 

นายชัยธวัชเปิดเผยด้วยว่า การนัดประชุมมีเจตนาที่จะจัดเวียนไปทุกพรรค การประชุมในวันพรุ่งนี้ จึงจัดที่พรรคประชาชาติ เพราะเป็นรัฐบาลที่รับผิดชอบร่วมกัน 

เมื่อถามถึงกรณีเรื่องการหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ที่ในวันนี้มีการนัดสอบสวนเพิ่มเติม ทางพรรคได้เตรียมรับมือไว้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้รับเชิญจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่รออยู่ และได้เตรียมทีมกฎหมายไว้นานแล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีข่าว เพราะคิดว่าน่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่จะถูกหยิบยกมาใช้ในทางการเมือง และมั่นใจว่า ถ้ากระบวนการตัดสินพิจารณาเรื่องนี้เป็นไปตามหลักกฎหมาย ก็ไม่มีปัญหาอะไร 

เมื่อถามถึงการแบ่งความรับผิดชอบ ยังแบ่งตามสัดส่วนเก้าอี้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังเป็นหลักการหลักที่ต้องใช้ในการพูดคุย แต่อาจไม่ต้องถึงขนาด เกรด A เกรด A++ เท่ากับ เกรด C สองกระทรวงอะไรแบบนั้น เพราะเราเอาวาระเป็นหลัก

เมื่อถามถึงกรณีที่ ว่าที่ ส.ส. ของพรรคก้าวไกล ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ เริ่มทำงานตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล เป็นยุทธศาสตร์ของพรรคหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ในที่สัมนาว่าที่ ส.ส. และผู้สมัครที่ไม่ชนะ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้แจ้งให้ว่าที่ ส.ส. ทุกคนเริ่มทำงานเลย โดยไม่ต้องรอการรับรอง เช่น แนะนำตัวกับข้าราชการในพื้นที่ชวนประชาชนในพื้นที่มาพูดคุยเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงร่วมกัน เป็นต้น 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธาก็เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน