วันที่ 26 พ.ค.66 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายธเนตร วงศ์ษา อดีตผู้สมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายเอกรินทร์ นิลสวัสดิ์ อดีตส.ว.ตรัง ปี 2549 เดินทางมายื่นหนังสือให้กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประเทศไทยได้เดินหน้าต่อ โดยนายธเนตร กล่าวว่า สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกฯ คนที่ 30 เพราะการที่พรรคก้าวไกลได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง ถือเป็นมติของมหาชนที่ลงมติให้หัวหน้าพรรคก้าวไกลเพื่อเป็นนายกฯ จึงต้องการให้กกต. เร่งประกาศรับรองผล เพื่อให้ประเทศไทยได้เดินหน้าโดยเร็วที่สุด และอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยแสดงสปริตโปรดสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกฯ เพื่อจะได้ไม่ต้องอาศัยเสียง ส.ว.ในการสนับสนุน
นายธเนตร กล่าวต่อว่า คะแนน ที่เลือกพรรคก้าวไกลนั้นเป็นคะแนนธรรมชาติ เป็นเสียงประชาชน ตนก็เลือกเพราะชอบนโยบาย โดยเฉพาะสุราก้าวหน้า สมัครใจเป็นทหาร จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จึงอยากให้ทุกคนให้โอกาสคนรุ่นใหม่ในการบริหารประเทศ ส่วนที่นายพิธา ถูกร้องเรื่องการถือหุ้นไอทีวีนั้นตนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะนักวิชาการพูดตรงกันว่า จำนวนหุ้นที่ถืออยู่นั้นเล็กน้อย และบริษัทไอทีวีปิดตัว ไม่ได้ประกอบธุรกิจแล้ว
เมื่อถามว่า หากว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้จัดตั้ง ไม่ได้เป็นรัฐบาลจะทำอย่างไร นายธเนตร กล่าวว่า ก็เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งไม่เป็นไร อีก 4 ปี ตนคิดว่า ถ้ามีการเลือกตั้ง รับรองพรรคก้าวไกลได้เสียงมาจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้แน่ๆ
ขณะที่นายเอกรินทร์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นอดีต ส.ว. คิดว่า ส.ว.ต้องเคารพเสียงของประชาชน ส.ว.ไม่ควรก้าวล่วงมติของปะชาชน การโหวตนายกฯ ควรเป็นอิสระ ซึ่งเมื่อพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมา ตามหลักประชาธิปไตยก็ควรได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ในฐานะที่นายพิธาเป็นเน็ตไอดอล 14 ล้านเสียง