เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พ.ค. 66 ที่พรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงถึงกระบวนการต่อไปที่พรรคจะดำเนินการต่อ ว่า จะเป็นการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลในประเด็นต่างๆ รวมถึงการจัดสรรแบ่งกระทรวง ตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงการหารือพูดคุยนโยบายที่ยังเห็นต่าง โดยยังมีนโยบายอื่นๆ ที่ยังเห็นต่างทั้งกระบวนการและวิธีการ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันต่อไป อย่างเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ซึ่งพรรคเพื่อไทย (พท.) ส่งสัญญาณบวกว่าไม่ขัดข้อง ถ้าพรรคก้าวไกลจะดำเนินนโยบายนี้ แต่ยังมีอีกหลายนโยบายที่ต้องพูดคุยรวมไปถึงนโยบายดิจิตอลวอลเล็ตของพรรค พท. ว่าสรุปแล้วจะมีการดำเนินนโยบายนี้หรือไม่ เป็นต้น ซึ่งหากพรรคใดพรรคหนึ่งตัดสินใจทำแล้ว จะมีผลกระทบต่อนโยบายอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการร่วมกัน จะเป็นแนวทางพูดคุย เพื่อสุดท้ายหาข้อสรุปเพื่อใช้เป็นนโยบายแถลงเพื่อต่อรัฐสภา
ส่วนเรื่องที่เป็นห่วงว่ากระแสจะทำให้พรรค พท. พิจารณาถอนตัวออกจากการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า พรรค พท. น่าจะเล็งเห็นว่าความหวังที่พี่น้องประชาชนมอบให้ ในการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จลุล่วงน่าจะมีความสำคัญ และเรื่องนี้น่าจะเป็นการที่จะได้พูดคุยเจรจากันภายหลังต่อไป ตนมั่นใจว่าพรรค พท. จะอยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานสภาฯหรือไม่ก็ตาม
เมื่อถามว่ามีการแทงข้างหลังกันจริงหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง
“ดิฉันยังยืนยันข้อความที่ระบุไว้ในเอ็มโอยูว่า เราต้องซื่อสัตย์ จริงใจต่อกัน ดังนั้นปรากฏการณ์แทงข้างหลังจะไม่มีทางปรากฎขึ้นแน่นอนจากทางฝั่งพรรคก้าวไกล” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม มีความพยายามในการสื่อสารตรงไปตรงมา ส่วนไหนที่ยังคิดว่าเป็นข้อกังวลที่จะเป็นการไม่จริงใจต่อกันก็สามารถที่จะพูดคุยกันได้
เมื่อถามย้ำว่าหากพรรค พท. ถอนตัว แนวทางของพรรคก้าวไกลหลังจากนี้จะทำอย่างไร น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เราไม่มีความเชื่อใดๆ ว่าพรรค พท. จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันหลายครั้ง ได้มีการแถลงข่าวการร่วมมือกัน ได้ลงนามเอ็มโอยู ตนมั่นใจว่าพรรค พท. จะไม่ถอนตัว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเน้นที่ตัววาระและนโยบายเป็นหลัก เรื่องการเจรจาต่อรองต้องไปพูดคุยกันในรายละเอียด ว่าใครได้บริหารกระทรวงไหน การที่พรรคที่ได้อันดับ 1 ขอตำแหน่งประมุขในสภาไม่ใช่เรื่องผิดแผกอะไรเนื่องจากเรามีวาระที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนในตำแหน่งประธานรัฐสภา
เมื่อถามว่ามีการวางตัว ตำแหน่งประธานสภาไว้แล้วว่าต้องเป็นใครหรือไม่ เนื่องจากหลายคนคาดการณ์ไปที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย น.ส.ศิริกัญญา ยอมรับว่ามีการพูดคุยกันแต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเป็นใคร ในพรรคมีคนที่เหมาะสมหลายคน คาดว่าจะมีการเปิดเผยรายชื่อในช่วงใกล้วันที่จะต้องโหวตประธานสภาฯ ซึ่งตำแหน่งนี้ไม่ได้เพียงควบคุมการประชุมเท่านั้น แต่ยังมีประเด็นในการขับเคลื่อนฟื้นฟูประชาธิปไตย ตนมั่นใจว่าคนของพรรคก้าวไกลสามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าในโผมีชื่อ นายณัฐวุฒิ อยู่แล้วใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา ยกตัวอย่างโผคณะรัฐมนตรีที่เคยหลุดออกมา ว่าอยู่ในกรณีเดียวกัน ยังไม่มีการสรุปชื่อใดๆ
เมื่อถามว่ามั่นใจว่ามีความสามารถในการควบคุมสภาได้หรือไม่เนื่องจากมีการมองว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล เป็น ส.ส.ใหม่ อายุไม่มาก น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ในอดีตก็มีผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ ที่มีอายุน้อย มองว่าเรื่องอายุไม่ใช่ประเด็น การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ยากถ้ามองเพียงประเด็นความอาวุโสและประสบการณ์มากเกินไป
ส่วนกรณีที่นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาบอกว่าพรรคก้าวไกลได้ฝ่ายบริหารแล้วไม่ควรกินรวบ นางสาวศิริกัญญา ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลยึดตัววาระและนโยบายเป็นหลัก ส่วนการเจรจาต่อรองคงต้องไปพูดคุยกันรายละเอียด ว่าได้ฝ่ายบริหารไปแล้วคือใครได้กระทรวงไหนอย่างไร ซึ่งการที่พรรคที่มีจำนวน ส.ส. มากเป็นอันดับหนึ่ง จะขอตำแหน่งประธานสภาซึ่งเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติด้วยในเวลาเดียวกัน ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแผกและพรรคก้าวไกลก็ชัดเจนว่าจะขับเคลื่อนอย่างไรในการที่มีตำแหน่งประธานสภา ซึ่งต้องพูดคุยกันว่าวาระเหล่านี้จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร
เมื่อถามว่าสาเหตุที่พรรคก้าวไกลต้องการตำแหน่งประธานสภา เพราะไม่ไว้ใจว่าพรรค พท. จะตั้งรัฐบาลแข่งหรือไม่นางสาวศิริกัญญา ยืนยันว่า ไม่ได้กังวลเรื่องนี้ว่าจะมีการเสนอชื่อคนอื่นเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อแข่งกันตั้งรัฐบาล เพราะเชื่อใจพรรค พท. อย่างเต็มที่ว่าจะร่วมหัวจมท้ายไปกับพรรคก้าวไกล พร้อมยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ยึดติดเก้าอี้แต่ยึดวาระที่ต้องการขับเคลื่อน
ส่วนที่นายอดิศร พรรค พท. เสนอว่าให้เปิดเป็นฟรีโหวตในสภา นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ยังไม่ไปถึงขั้นนั้น เราคาดว่าน่าจะได้ข้อยุติกันก่อนที่จะไปถึงให้ฟรีโหวต