เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่พรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จัดแถลงความคืบหน้าการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาล ว่า หลังจากเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการลงนามเอ็มโอยูระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ได้รับการตอบรับในเชิงบวกทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและประชาชน หลังจากมีความชัดเจนในจุดยืนและนโยบาย ทางด้านส.ว.มีความเข้าใจมากขึ้นและยอมรับหลักการ ที่จะยกมือโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังคงเดินหน้าเจรจากับส.ว.เป็นรายบุคคลอย่างต่อเนื่อง เพื่อยืนยันว่าเราจำเป็นต้องได้เสียงให้ครบ และพยายามเชื่อมั่นว่าจะได้เสียงมากพอที่นายพิธาจะเป็นนายกฯ ได้ หลังจากวันที่ 22 พฤษภาคม ทางพรรคได้มีการเดินสายพูดคุยต่อเนื่องอีกหลายหน่วยงาน หน่วยงานแรกที่ได้พบปะพูดคุยคือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ต้องขอบคุณสภาอุตสาหกรรมฯ ที่ได้จัดสรรเวลามาพูดคุยกับพวกเรา จากข่าวที่ออกมา ต้องขอบคุณสภาอุตสาหกรรมฯ ที่ยอมรับในความสามารถ วิสัยทัศน์ของนายพิธา
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกลยืนยันอีกครั้งว่า นโยบายของพรรคเน้นการสร้างเศรษฐกิจที่จะเติบโตอย่างเป็นธรรม ที่จะส่งเสริมให้แก่ผู้ประกอบการ แรงงานให้เติบโตได้ ขณะเดียวกันก็ลดความเหลื่อมล้ำ และเราจะเดินหน้าต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสภาแรงงาน สภาหอการค้าไทยและภาคส่วนต่างๆ โดยเชื่อมั่นว่าการเดินหน้าพูดคุยจะทำให้ทุกฝ่ายเกิดความเชื่อมั่นกับนโยบายเรามากขึ้น
เมื่อถามว่าการรวบรวมเสียงของส.ว. ในการที่จะโหวตเลือกนายพิธาเป็นนายกฯ ขณะนี้มีจำนวนเท่าไหร่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ในกระบวนการเจรจา มีทั้งการสื่อสารผ่านสื่อสาธารณะ และมีการพูดคุยเป็นรายบุคคล ต้องยอมรับว่ามีส.ว.บางส่วนที่ออกมาเปิดเผยว่าจะโหวตอย่างไร ผ่านทางสื่อต่างๆ และเราต้องเคารพในส่วนที่อาจจะมีการพูดคุย แต่ยังไม่ประกาศตัวต่อหน้าสาธารณะ โดยหากยึดตามที่ประกาศตัวแล้ว มีประมาณ 19 คน ขณะเดียวกันหากคำนึงถึงส.ว.บางคนที่ยังมีเงื่อนไขอยู่ จะอยู่ที่ประมาณ 16-20 คน เรามั่นใจกับตัวเลขที่ได้รวบรวม การพูดคุย และสัญญาณต่างๆที่ได้รับเป็นไปในทางบวก และน่าจะได้รับเสียงที่ครบถ้วนเพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งคาดว่ายิ่งใกล้วันที่จะมีการโหวต จะมีส.ว.ออกมาแสดงตัวยินดีที่จะยอมรับในหลักการประชาธิปไตย