วันที่ 22 พ.ค.66 นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำสามัคคีประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ ไทกร พลสุวรรณ ระบุว่า...

การเมืองลงสู่ถนน ใครได้ ใครเสีย?

หากไม่มีสัญญาณพิเศษจากกลุ่ม Deep State ยากมากถึงยากที่สุดที่ ส.ว.จะโหวตเห็นชอบให้พิธาจากพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี หรือแม้แต่อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐาจากเพื่อไทยก็ไม่ต่างกัน เพราะมันคือยุทธศาสตร์หลักของฝ่าย Deep State ที่ไม่ต้องการให้อำนาจรัฐเปลี่ยนมือไปอยู่กับอีกฝ่าย

ดังนั้นการตัดสินใจของแกนนำมวลชนที่เป็นแนวร่วมของก้าวไกล ที่ได้นัดหมายชุมนุมกันเพื่อสร้างพลังมวลชนกดดันให้ ส.ว.ยอมโหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีจึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ ต่อคำถามที่ว่า มีหนทางอื่นอีกไหม ที่จะชักจูงโน้มน้าวให้ ส.ว.ยอมโหวตให้ ตอบได้เลยว่าไม่มีทางอื่นอีกแล้ว

การชุมนุมไม่ได้สร้างแรงกดดันไปที่ ส.ว.โดยตรง แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือ กดดันไปที่เจ้าของ ส.ว. เพื่อให้เจ้าของ ส.ว.ได้รับรู้ว่าประชาชนเอาจริง

หากการชุมนุมอย่างสันติเต็มไปด้วยพลัง จะเกิดผลสะเทือนอย่างรุนแรงต่อโครงสร้างอำนาจรัฐของกลุ่ม Deep State จึงเป็นความจำเป็นที่กลุ่ม Deep State ต้องคลี่คลายสถานการณ์ เพื่อรักษาโครงสร้างอำนาจรัฐของตนไว้ เมื่อนั้นสัญญาณก็จะถูกส่งไปยังเจ้าของ ส.ว. ให้ปล่อยเชือก ให้ ส.ว.เป็นอิสระ

ถ้าคิดหรือสร้างจินตภาพแบบโลกสวยก็ต้องอธิบายออกมาได้แบบนี้ แต่หากคิดและมองโลกแห่งความเป็นจริง สถานการณ์คงไม่ใช่แบบหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสองแน่ๆ อาจมีสมการตัวแปรต้น ดัวแปรตามมากมายเกิดขึ้นตามมา ซึ่งอาจควบคุมได้ หรืออาจควบคุมไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ต้องนำมาคิดในตอนนี้ เรื่องหลักที่ต้องคิดคือ ถ้าไม่มีการชุมนุมกดดัน เชื่อหรือว่า ส.ว.จะโหวตเห็นชอบให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีตามเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชน