วันที่ 19 พ.ค.2566 นายสมบัติ ยะสินธุ์ ว่าที่ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคปชป. จะพา 16 ว่าที่ส.ส.ของพรรค ไปร่วมรัฐบาลพรรคก้าวไกล ว่า ไม่น่าจะร่วมรัฐบาล เพราะเห็นว่าพรรคก้าวไกลสุดโต่ง แต่ถ้าเกิดพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วกลายเป็นพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายจัดตั้งแทน และไม่มีเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ก็มีความเป็นไปได้ที่พรรคจะร่วมรัฐบาลด้วย โดยเอานโยบายของเราไปผสม

"ผมคุยกับท่านเฉลิมชัยอยู่ ท่านก็ยืนหลักการเหมือนกับผม ถ้าเป็นของพรรคก้าวไกลเราไม่เห็นด้วยแต่ถ้าเปลี่ยนขั้วเป็นพรรคเพื่อไทย ออกมาในโทนกลางๆ เพื่อลดความขัดแย้งเรื่องสีเสื้อ อีกทั้งไม่แตะสถาบัน เรารับได้" นายสมบัติ กล่าวและว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วยทั้งจะแก้ไขหรือจะยกเลิกมาตรา 112 และต้องดูรายละเอียดว่าแก้แล้วมีประโยชน์อะไร ไม่กระทบสถาบันหรือไม่

เมื่อถามถึงนายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคปชป. เสนอให้พรรคโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ นายสมบัติ กล่าวว่า พูดตามตรงพรรคประชาธิปัตย์เปิดโอกาสให้ทุกคนเสนอความคิดเห็นได้ เช่นเดียวกับนายอลงกรณ์เสนอได้ แต่น้ำหนักเสียงโหวตน้อย และเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องหาเสียงในสภาฯให้ได้ 376 เสียง ส่วนเราอยู่เฉยๆ ถ้าเขารวมได้ เราก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านไม่มีปัญหา